แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกภรรยาหมอลำชื่อดังมหาสารคาม โอนเงิน 6 ครั้ง กว่า 2 ล้านบาท อ้างแบบเดิม DSI พบหลักฐานพัวพันการฟอกเงิน

วันที่ 15 ก.พ. 65 พ.ต.ท.จตุรงค์ ดรออนเบ้า สว.(สอบสวน) สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม พนักงานสอบสวนเวร ได้รับแจ้งจาก น.ส.องค์นุช อายุ 38 ปี และนายยมนิล อายุ 39 ปี หรือ หนุ่มโจ ผู้ก่อตั้งวงดนตรีหมอลำคณะสาวน้อยเพชรบ้านแพง ได้มาพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.10 น. ได้มีโทรศัพท์หมายเลข 09-0820-4829 ได้ติดต่อมายังผู้แจ้งว่ามีพัสดุจะส่งไปประเทศจีน ถูกตีกลับแจ้งว่าในกล่องพัสดุมีหนังสือเดินทางจํานวน 14 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 10 ใบ ซุกซ่อนไว้ในเสื้อผ้า พนักงาน DSI แนะนําให้แจ้งความลงบันทึกประจําวันไว้ใน สภ.ที่เกิดเหตุ สักพักพนักงานได้โอนสายไปที่ สภ.ที่เกิดเหตุ แต่ผู้แจ้งไม่ได้แจ้งความด้วยตนเองแต่อย่างใด และมีการตรวจสอบรายชื่อของผู้แจ้ง แล้วแจ้งมาว่ามีการพัวพันกับคดีฟอกเงินของนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นคดีใหญ่ และส่งรูปภาพมาให้ดูเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แล้วแจ้งว่าเป็นคดีลับ จึงได้ลบภาพออกไปในทันที โดยได้สอบถามผู้แจ้งว่ามีบัญชีเงินฝากทั้งหมดกี่บัญชี และให้แจ้งยอดเงินในบัญชีทั้งหมดที่แจ้งไป พร้อมแจ้งให้ น.ส.องค์นุช โอนเงินเข้าไปในบัญชีกลาง เพื่อตรวจสอบว่าเงินได้มาอย่างถูกต้องแล้วให้กดบันทึกไว้เพื่อใช้ในการตรวจสอบกับ ปปง.

หลังจากนั้น น.ส.องค์นุช ได้โอนเงินไปดังนี้ เวลา 14.37 น. จํานวน 1,027,000 บาท ออกจากบัญชี ธนาคารกรุงเทพ โอนไปยังบัญชี น.ส.ศุภาวรรณ ธนาคารทหารไทยธนชาต เวลา 14.40 น. น.ส.องค์นุช โอนเงินจํานวน 193,000 บาท ออกจากบัญชีธนาคารกสิกรไทย โอนไปยังบัญชี น.ส.ศุภาวรรณ ธนาคารทหารไทยธนชาต เวลา 14.43 น. น.ส.องค์นุช โอนเงินจํานวน 494,000 บาท จากบัญชีธนาคารกสิกรไทย โอนไปยังชื่อบัญชี น.ส.ศุภาวรรณ ธนาคารทหารไทยธนชาต เวลา 14.45 น. น.ส.องค์นุช โอนเงินออกจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จํานวน 224,001 บาท โอนไปยังบัญชี น.ส.ศุภาวรรณ ธนาคารทหารไทยธนชาต เวลา 15.24 น. น.ส.องค์นุช โอนเงินออกจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จํานวน 100,000 บาท โอนไปยังชื่อบัญชีนายณัฐพนธ์ ธนาคารกสิกรไทย และเมื่อเวลา 15.44 น. น.ส.องค์นุช โอนเงินออกจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จํานวน 50,000 บาท โอนไปยังชื่อบัญชี น.ส.พรรัตน์ ธนาคารกรุงไทย รวมโอนไป 6 ครั้ง จำนวน 2,088,001 บาท 

...

หลังจากที่โอนเงินเสร็จแล้ว จู่ๆ สายก็ตัดไป จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีก และถูกบล็อกเบอร์ ทำให้ น.ส.องค์นุช เชื่อว่าน่าจะถูกหลอก จึงได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงประจําวันแจ้งความและร้องทุกข์ให้ดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ นายยมนิล และ น.ส.องค์นุช ได้ฝากเป็นอุทาหรณ์ และฝากเตือนภัยไปยังประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้.