กระบะปืนดุ ไล่ยิงกระบะช่างไฟสนั่น กลางเมืองสุรินทร์ หลังหัวร้อนจากเหตุขับรถ ด่าแจกของลับกันไปมา ฝ่ายหลังตกใจเสียงปืน ซิ่งหนีตายเสียหลัก เหินข้ามคูน้ำกว่า 20 เมตร ชนแบริเออร์-รถพังยับ หวิดดับยกคัน เคราะห์ดีบาดเจ็บเล็กน้อย 1 

เมื่อเวลา 19.20 น.วันที่ 5 ก.พ.65 ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ ภักดี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ รับแจ้งเหตุรถกระบะถูกตามไล่ยิงด้วยอาวุธปืน จนเกิดอุบัติเหตุ มีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณถนนกลับรถใต้สะพานบ้านโคกจ๊ะ ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุดีแมคซ์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บฉ-3841 สุรินทร์ สภาพหน้ารถพังยับเยิน และกระจกด้านหน้าแตก ซึ่งภายในรถมีคนอยู่ทั้งหมด 3 คน ทราบชื่อ คือ นายวินัย พิมพ์กรณ์ อายุ 56 ปี (คนขับ) มีอาการปวดหลังและตามร่างกาย นายเดียน สังสัญชาติ อายุ 69 ปี (นั่งข้างคนขับ) มีอาการปวดตามร่างกาย และ นายนิติพงษ์ กองทุน อายุ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บที่หัว มีแผลแตกยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ซึ่งทั้ง 3 คน มีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้า 

จากการสอบถาม นายวินัย (คนขับรถกระบะ) เล่าว่า หลังเสร็จงาน ทึ่ อ.กาบเชิง กำลังขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อมาถึงช่วงตัวเมืองสุรินทร์ ได้ขับผ่านบริเวณตลาดนัดคลองถม ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ซึ่งช่วงเวลานั้นมีรถสัญจรจำนวนมาก จากนั้นมีรถจักรยานยนต์วิ่งตัดหน้าปาดเข้ามาหารถตน จึงเบรกกระทันหัน ทำให้รถกระบะคันหลังเบรกกะทันหันตามด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับตามมาและบีบแตรใส่ตน ตนจึงจอดรถ จากนั้นคู่กรณีได้เปิดกระจกรถออกแล้วพูดขึ้นว่า "ขับรถอย่างไรจะชนตูดแล้ว" ก่อนต่อว่าด้วยคำหยาบคายและให้ของลับ 

...

"ผมจึงด่าสวนและให้ของลับกลับไปเช่นกัน หลังจากนั้นพอขับรถออกมา ก็สังเกตเห็นรถคู่กรณีขับตามหลังมา ผมจึงขับหนีเพื่อสลัดออกมา จนมาถึงจุดเกิดเหตุก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ด้วยความตกใจจึงเหยียบคันเร่ง ตรงมายังที่กลับรถใต้สะพานด้วยความเร็ว ก่อนเสียหลักเหินข้ามคูน้ำกว่า 20 เมตร มายังอีกฝั่ง ก่อนพุ่งชนกับแบริเออร์กันทาง 2 อัน จนหล่นน้ำ ส่วนรถผมหน้ายุบกระจกแตกพังเสียหาย แต่โชคดีที่คนในรถไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก" นายวินัย เล่านาทีระทึก  

นายวินัย เล่าต่อว่า หลังเกิดเหตุรถกระบะคู่กรณีก็ขับหลบหนีไป หลังจากนั้นตนจึงโทรหาลูกชาย และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ จากนั้นจึงเดินทางมาแจ้งความ ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฏหมาย

"ผมยังแจ้งมายังผู้สื่อข่าวด้วย เพราะเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า และจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ ผมจำทะเบียนรถคู่กรณีไม่ได้ จำได้เพียงเป็นรถ 4 ประตู สีขาว มีสติ๊กเกอร์สีดำติดอยู่ด้านข้างประตูทั้ง 2 ด้าน ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุราวๆ 30 กว่าปี ลักษณะผมสั้นเตียน สวมเสื้อกล้ามสีขาว มีรอยสักที่บริเวณแขนด้านขวา นั่งมากับผู้หญิง 1 คนในรถ" นายวินัย ระบุ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และจะเร่งสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ขับไล่กันมา พรุ่งนี้ (6 ก.พ.) จะลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม  เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป