การประเมินผลโครงการส่งเสริมการผลิตผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ภายใต้แผนแม่บทย่อยเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น ในปี 2564 โดยศูนย์ประเมินผลสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า ปีงบประมาณ 2564 สามารถส่งเสริมเกษตรกรได้จำนวน 626 ราย หรือร้อยละ 100.97 ของเป้าหมายที่กำหนดไว้ 620 ราย

และจากการลงพื้นที่เพื่อศึกษากลุ่มตัวอย่าง...กลุ่มทอผ้าบ้านขี้กา ต.แขม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ หนึ่งในกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการพบว่า ได้รวมกลุ่มกันอย่างชัดเจนในช่วงปี 2563ช่วงแรกการทอผ้าจะเป็นแบบดั้งเดิม ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ต่อมาศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมการผลิต โดยการอบรมถ่ายทอดความรู้ให้แก่สมาชิกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง

ผลจากการสนับสนุน ในปีงบประมาณ 2564 กลุ่มทอผ้าบ้านขี้กาสามารถนำความรู้ที่ได้รับมาปรับปรุงและพัฒนาวิธีการฟอก
ย้อมสีเคมี/สีธรรมชาติได้อย่างถูกวิธี สามารถพัฒนาลายของผ้าไหมให้มีลวดลายสวยงามมากยิ่งขึ้น เช่น ผ้าไหมมัดหมี่สีมะดัน ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัด ผ้าไหมมัดหมี่เฉลียงลายดอกไม้ ผ้ามัดหมี่ลายแมงมุม ปัจจุบันมีสมาชิก 2 ราย ได้ใบรับรองมาตรฐานการผลิตผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานเรียบร้อยแล้ว

ส่วนเกษตรกรสมาชิกรายอื่นๆ สามารถจำหน่ายผ้าไหมได้ในราคาเพิ่มขึ้น จากผืนละ 1,200–1,300 บาท เป็น 1,500–2,000 บาท ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เสริมจากการจำหน่ายผ้าไหมเฉลี่ยรายละ 34,400 บาทต่อปี ทั้งนี้ราคามีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับลวดลาย และวิธีการทอผ้าไหม

ด้านการตลาด นอกจากจะจำหน่ายภายในหมู่บ้าน ยังมีการขยายช่องทางการตลาดในรูปแบบออนไลน์ เช่น Line และ Facebook ของสมาชิกเกษตรกร ได้รับความนิยม มีการสั่งจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตมีแผนพัฒนาสู่การเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) หรือสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น อีกทั้งผู้ใช้หรือผู้ซื้อผ้าไหมยังมั่นใจในคุณภาพจากการรับรองมาตรฐานผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ซึ่งจะทำให้ผ้าไหมของไทยเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในอนาคต.

...

สะ-เล-เต