ชาวบ้านหนองมะแซว รวบรวมกองฟืนมาจุดผิงไฟเพื่อคลายความหนาว หลังอุณหภูมิในพื้นที่ลดต่ำลงช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ขณะที่ ต้องก่อไฟเพื่อให้โคและกระบือที่อยู่ในคอกได้ความอบอุ่น ป้องกันเป็นปอดบวม

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวพบเห็นชาวบ้านในพื้นที่อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ จุดไฟนั่งผิงหาเผือกมันมาเผากินล้อมวงพูดคุยเพื่อคลายความหนาว และที่ผู้สือข่าวแปลกใจ คือ ชาวบ้านจุดไฟให้โคกระบือที่อยู่ในคอก ให้ได้ผิงไฟเพื่อคลายความหนาวเช่นเดียวกัน

...

นางจวน ชายศรี เจ้าของวัว อายุ 50 ปี อยู่บ้านหนองมะแซว ต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า เมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมาอากาศในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะบ้านหนองมะแซวตำบลตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ อากาศหนาวมากๆ อุณหภูมิอยู่ที่ 15 ถึง 18 องศาเซลเซียส ช่วงพลบค่ำก่อนจะต้อนฝูงวัวเข้าคอก ตนเองได้ให้สามีตระเวนเก็บฟืนตามหัวไร่ปลายนา มากองรวบรวมไว้ ก่อนนำเศษไม้ฟืนและขอนไม้ขนาดใหญ่ มาก่อกองไฟไล่ยุงและไล่ความหนาวให้โค-กะบือทั้งฝูง ขนาดคนยังหนาวเลยนับประสาอะไรกับสัตว์ ในทุกคืนตนเองกับสามีจะผลัดเวรกันมานอนเฝ้าเพราะเกรงว่าไฟที่ก่อเอาไว้จะดับ และทำให้วัวที่เลี้ยงเอาไว้เหน็บหนาว เพราะหวั่นว่าโค-กระบือ จะเป็นโรคปอดบวมเนื่องจากสภาวะอากาศหนาวเหน็บ หากล้มตายลงก็จะทำให้ขาดทุนเพราะวัวที่ตนเองซื้อมาราคาค่อนข้างแพง

ทั้งนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีอากาศเย็นกับมีลมแรง มีหมอกบางในตอนเช้า จังหวัดสุรินทร์ ตามพื้นที่ราบอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 15 องศาเซลเซียสจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ประกอบกับมีลมพัดแรง ทำให้ยิ่งหนาวเหน็บ วัวที่เจ้าของหรือเกษตรกรที่เลี้ยงไว้ต้องทนสู้กับความหนาวเย็นจนไม่หลับกระสับกระส่ายทั้งคืน เจ้าของต้องก่อกองไฟไว้ให้ผิงและติดหลอดไฟฟ้าไว้ในคอกเพื่อสร้างความอบอุ่นช่วยคลายความหนาวเย็นให้กับวัวกระบือ.