แม่ค้าลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ เตรียมไหว้ศาลหลักเมือง และอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ดลบันดาลให้น้อง "ลิซ่า Blackpink" หายป่วยโควิด กลับมาแข็งแรงโดยเร็ว เผยหากไม่มีน้อง คงยังไม่พ้นวิกฤติ จนฟื้นตัว และขายดิบขายดีมาจนถึงทุกวันนี้


วันที่ 25 พ.ย. 64 หลังจากที่สื่อเกาหลีได้นำเสนอข่าวกรณีที่ YG Entertainment ต้นสังกัดวง Blackpink เผยว่า "ลิซ่า Blackpink" หรือ ลลิษา มโนบาล ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และสมาชิกของวงทั้ง 3 คน เข้าตรวจหาเชื้อ อยู่ระหว่างกักตัวรอตรวจผลยืนยัน ซึ่งนอกจากบรรดาแฟนคลับต่างออกมาแสดงความห่วงใยและให้กำลังใจ “ลิซ่า” ให้หายป่วยจากโควิดแล้ว บรรดาพ่อค้าแม่ค้าลูกชิ้นยืนกินที่จังหวัดบุรีรัมย์ต่างก็ออกมาแสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจให้ “ลิซ่า” เช่นกัน

โดยแม่ค้าลูกชิ้นบางคนเตรียมที่จะไปไหว้ขอพรศาลหลักเมือง และอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวบุรีรัมย์ เพื่อขอให้น้องลิซ่าหายป่วยจากโควิดและกลับมามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงโดยเร็ว เพราะน้องลิซ่าถือเป็นขวัญใจของพ่อค้าแม่ค้าลูกชิ้นยืนกิน ที่ทำให้ลูกชิ้นยืนกินกลายเป็นกระแสฟีเวอร์คนรู้จักทั่วโลก ส่งผลให้ยอดขายถล่มทลาย บางคนขายได้วันละเป็นแสน จากที่สถานการณ์โควิดเงียบเหงา ขายได้เพียงหลักร้อย

...

น.ส.อรุณศรี กำเนิดกลาง เจ้าของร้านลูกชิ้น “ยายภา” กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวน้อง “ลิซ่า” จากสื่อ ก็รู้สึกเป็นห่วงน้อง ในนามของแม่ค้าลูกชิ้นยืนกินที่ได้รับอานิสงส์จากกระแสของน้องลิซ่า จนผ่านพ้นวิกฤติ ขายของได้จนฟื้นตัว และยังขายดีจนถึงทุกวันนี้ ก็ขอส่งกำลังใจให้น้องลิซ่าหายป่วยจากโควิดและกลับมาแข็งแรงโดยเร็ว รวมถึงสมาชิกวงแบล็กพิงก์ด้วย ทั้งนี้ตนเองเตรียมจะไปไหว้ขอพรศาลหลักเมือง และอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวบุรีรัมย์ เพื่อให้น้องหายเร็วๆ ด้วย

ส่วนนางสาวรุ่งอรุณ ชนะทะเล อายุ 44 ปี แม่ค้าเจ้าของต้นตำรับลูกชิ้นยืนกินชื่อ “ป้านก” บอกว่า หลังทราบข่าวรู้สึกตกใจและเป็นห่วงมาก เพราะน้องลิซ่าถือเป็นบุคคลสำคัญของบรรดาแม่ค้าลูกชิ้นยืนกิน

“เพราะเป็นคนสร้างกระแสให้ยอดขายพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และยังทำให้ลูกชิ้นบุรีรัมย์เป็นที่รู้จักของคนไทยทั่วประเทศรวมถึงชาวต่างประเทศรู้จักลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ อยากฝากถึงน้องลิซ่า ว่าชาวบุรีรัมย์คิดถึง ขอให้หายไวๆ และอยากให้มาชิมลูกชิ้นยืนกินโฉมใหม่ หลังจากน้องลิซ่าสร้างชื่อให้”

ขณะที่ น.ส จันจิรา เจริญรัมย์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 1 บ้านตามา ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เพื่อนบ้านของน้องลิซ่า บอกว่า ทราบข่าวจากทีวีว่าน้องลิซ่าติดโควิด-19 รู้สึกตกใจอยู่ แต่โรคโควิดไม่ใช่โรคอุบัติใหม่แล้ว จึงน่าจะหายป่วยในเร็วๆ นี้ แค่ฝากความคิดถึง และให้หายป่วยเร็วๆ.