ยกแปลงใหญ่ข้าว ต.โคกจาน ศรีสะเกษ ต้นแบบรวมตัวเข้มแข็งผลิตข้าวได้ตามมาตรฐานข้าวอินทรีย์ Organic Rice Thailand ขายในประเทศและส่งออก ภายใต้การดูแลของ ศมข.ศรีสะเกษ
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 64 นางยุพาพิน ศรียงยศ ประธานแปลงใหญ่ข้าวหมู่ 2 ต.โคกจาน หมู่ 2 อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนนาแปลงใหญ่ ต.โคกจาน ได้เข้าร่วมโครงการนาแปลงใหญ่ประชารัฐ และโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ เมื่อปี 2559 พร้อมทั้งเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ (1 ล้านไร่) กับกรมการข้าว โดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุรินทร์เป็นผู้กำกับดูแล และต่อมาในปี 2560 ได้เข้าร่วมเป็นกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์ให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว จ.ศรีสะเกษ มีสมาชิกจำนวน 99 ราย พื้นที่ 1,381 ไร่ เป้าการผลิต 465,780 กก.
จากการเข้าร่วมโครงการฯ กลุ่มได้มีการวางแผนการผลิต พัฒนาคุณภาพของสินค้า (ข้าว) ให้ได้มาตรฐาน และการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางด้านการตลาดให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างของกลุ่มฯ โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ กำหนดเป้าหมายการผลิต ถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุกขั้นตอน จนถึงการเชื่อมโยงตลาด ทำให้สมาชิกกลุ่มฯ สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น จึงมีความมุ่งหวังที่จะพัฒนาศักยภาพและยกระดับมาตรฐานการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อจำหน่ายคืนให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว จ.ศรีสะเกษ และผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีตามความต้องการของตลาดเพื่อจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป
...
ซึ่งปัจจุบันที่ผู้บริโภคเริ่มใส่ใจด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น จึงมีความต้องการสินค้าที่มีความปลอดภัยจากสารเคมีและสารพิษตกค้าง การตลาดข้าวอินทรีย์มีแนวโน้มการขยายตัวมากขึ้น การผลิตข้าวอินทรีย์หรือสินค้าข้าวอินทรีย์จึงเป็นอีกช่องทางในการพัฒนาสินค้าข้าวอินทรีย์ของกลุ่ม ซึ่งกลุ่มสามารถผลิตข้าวได้ตามมาตรฐานข้าวอินทรีย์ Organic Rice Thailand แล้ว และมีต้องการยกระดับและพัฒนาสู่การรับรองมาตรฐานสากล พัฒนาการแปรรูปสินค้าข้าวอินทรีย์เพื่อจำหน่าย รวมถึงผลิตสินค้าข้าวเพื่อการส่งออกได้
นางสาวเยาวลักษณ์ กุลโท นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวศรีสะเกษ เปิดเผยว่า กลุ่มแปลงใหญ่ข้าวหมู่ 2 ต.โคกจาน ถือเป็นกลุ่มต้นแบบที่ประสบความสำเร็จกลุ่มหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ จุดเด่นคือ มีผู้นำและคณะกรรมการกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ สมาชิกทุกคนให้ความร่วมมือ และมีความสามัคคี ดำเนินงานด้วยความโปร่งใส มีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาให้ดีขึ้น จึงประสบความสำเร็จได้ในที่สุด.