คนบันเทิงและแฟนคลับนับพันพร้อมใจมาร่วมพิธีฌาปนกิจ "พรศักดิ์ ส่องแสง" ตำนานหมอลำ แน่นวัดป่าศรีสว่าง ที่ จ.หนองบัวลำพู ญาติและครอบครัวร่ำไห้สุดอาลัย แล้วสุดท้ายเปิดเพลงอ้ายตายอย่าอ่านประวัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดป่าศรีสว่าง ตำบลบ้านขาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ว่าวันที่ 18 ตุลาคม 2564 เวลา 13.00 น.ขบวนเริ่มแห่ศพ พรศักดิ์ ส่องแสง นักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง เจ้าของตำนานเพลงดังมากมาย ออกจากบ้านระยะทางประมาณ 500 เมตรแต่เนื่องจากรถร่วมขบวนเยอะมาจึงใช้เวลากว่า 30 นาทีจึงถึงที่หมายหลังจากทำพิธิแห่หีบศพรอบเมรุ 3 รอบแล้ว ก็นำหีบบรรจุศพในออกจากโลงเย็น เพื่อให้พระคุณเจ้าและญาติรดน้ำศพครั้งสุดท้ายตามประเพณีท้องถิ่น จากนั้นจึงนำหีบศพของพรศักดิ์ ส่องแสง ขึ้นวางประดับบนแท่นพิธีเตรียมทอดผ้าบังสุกุลต่อไป 

...

ลำดับต่อมาครอบครัวได้ทำพิธีสวดมาติกาบังสุกุล โดยมีแขกผู้มีเกียรติร่วมทอดผ้าบังสุกุล ประกอบด้วยโดยศิลปินที่มาร่วมงานทั้งไทยและลาวที่เดินทางมา เช่น เฉลิมพล มาลาคำ นกน้อยอุไรพร คำมอด พรขุนเดช และอีกหลายๆ คน จากนั้นสภาวัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู จัดชุดแสดงรำหน้าศพจากศิลปินอาชีพ และขับร้องด้วยบทเพลงที่โศกเศร้า จนหลายคนต้องหลั่งน้ำตาด้วยความโศกาอาดูร จากนั้นมีการลำกลอน โดยฝีมือการเขียนกลอนลำของขุนพลแคนคู่ใจ ชูเกียรติ บุญบู๊ ลำกลอนของเฉลิมพล มาลาคำ การแสดงเครื่องเป่าของครูดนตรี

ต่อมาจึงเป็นการอ่านประวัติของนายบุญเสาร์ ประจันตะเสน หรือ พรศักดิ์ ส่องแสง ผู้วายชนม์ มีการทอดผ้ามหาบังสุกุลโดยนางศิวพร ฉั่วสวัด เสร็จแล้วจึงให้ผู้ร่วมงานขึ้นวางดอกไม้จันท์ครั้งสุดท้าย ซึ่งประชาชนนับพันที่มาร่วมงานต่างก็ทยอยขึ้นวางโดยสงบ ช่วงนั้น “อัท” นายพีรศักดิ์ ประจันตะเสน ลูกชายคนเดียวและเป็นลูกคนสุดท้องของ พรศักดิ์ กลั้นน้ำตาไม่ไหวร้องไห้ลงมาจากเมรุ จนเพื่อนที่เรียนด้วยกันต้องเข้าไปกอดปลอบ จึงทำให้นางจุฬาวัลย์ ประจันตะเสนผู้เป็นแม่และพี่ๆ ต่างก็น้ำตาคลอลงมาตามๆ กัน ช่วงท้ายนายเฮ้า ประจันตะเสน อายุ 88 ปี บิดาของ พรศักดิ์ ขึ้นวางดอกไม้จันท์ส่งลูกชายสุดที่รักครั้งสุดท้ายถึงกับเข่าอ่อนญาติต้องประคองลงไปพักผ่อนข้างล่าง

...

จากนั้นจึงเริ่มประชุมเพลิง โดยการนำร่างของพรศักดิ์ ส่องแสง บรรจุเข้าเตาเผา เตรียมการจุดไฟตามแบบโบราณที่ใช้ชุดไฟคล้ายจรวดแขวนติดเส้นลวด เมื่อจุดไฟที่ชุดไฟนี้ก็จะวิ่งไปตามเส้นลวดที่ขึงไว้ให้พุ่งเข้าไปที่เตาเผาจนไปจุดไฟในเตาเมื่อเสียงปะทุดังขึ้นเกิดไฟในเตาเผา นางจุฬาวัลย์ ภรรยาพรศักดิ์ถึงกับปิดหน้าร้องไห้จนลูกๆต้องเข้าไปกอด ทั้งๆที่ตลอดเวลานางจุฬาวัลย์จะพยายามข่มใจแสดงความเข้มแข็งมาโดยตลอด เหมือนกับนายเฮ้าผู้เป็นพ่อของพรศักดิ์ ก็ถึงกับร่ำไห้ออกมาด้วยท่าทางเสียใจอย่างที่สุด ลูกหลานต้องเข้าไปปลอบตลอดเวลา หลานคนนึงบอกว่าปู่ไม่เคยร้องไห้เลยแต่ปู่ก็มาร้องไห้เสียใจจนได้ในวันนี้

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงทำพิธีประชุมเพลิงเจ้าภาพได้เปิดเพลง "อ้ายตายอย่าอ่านประวัติ" ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบสร้างความสนใจให้กับคนที่ได้ฟัง.