จนท.อช.ทับลาน รับแจ้ง ช้างป่าออกหากินเข้าไปในสวนชาวบ้านซับสะเดา อ.ครบุรี โดยมีชาวบ้านโดนช้างชนสลบเหมือดคาสวนยาง 1 ราย ส่วนที่ชุมชนบ้านไผ่ รับแจ้งมีเสือโคร่งมาหากินใกล้หมู่บ้าน ทำคนหวาดผวา
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เขตจัดการอุทยานแห่งชาติที่ 3 (คลองน้ำมัน) ว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. ได้รับแจ้งจากกำนันตำบลบ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ว่ามีช้างป่าออกมาหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์และได้ทำร้ายราษฎรที่ออกมากรีดยางพารา บริเวณบ้านซับสะเดา ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่จึงได้มาตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่ามีร่องรอยช้างป่าประมาณ 5-6 ตัว หากินบริเวณโดยรอบป่ายางพาราของราษฎร และได้สอบถามผู้ใหญ่บ้านบ้านใหม่ พบว่า เป็นราษฎรบ้านอังโกน ชื่อนายโชคชัย บุญชูดำ อายุ 44 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ที่ 2 บ้านอังโกน ตำบลบ้านใหม่ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
ขณะนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลครบุรี คณะเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปที่โรงพยาบาลเพื่อสอบถามอาการของนายโชคชัย บุญชูดำ ทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ได้ออกไปกรีดยางพาราทิ้งไว้เพื่อเก็บในตอนเช้า และก่อนที่ตนจะออกไปกรีดยางได้ทำการจุดประทัดเพื่อไล่ช้างป่า แต่ตนไม่เห็นช้างป่าจึงคิดว่าไม่มีสัตว์ป่าในพื้นที่แล้ว จึงออกไปกรีดยาง และได้ถูกช้างป่าตัวเล็ก ชนเข้าบริเวณหน้าอกจนสลบไป และรู้สึกตัวขึ้นมาเวลา 08.00 น. ได้โทรติดต่อภรรยาของตนเพื่อแจ้งให้รถโรงพยาบาลไปรับตัว ขณะนี้อาการ นายโชคชัย บุญชูดำ ปลอดภัยแล้ว ทางแพทย์โรงพยาบาลครบุรีได้ให้กลับไปรักษาอาการปวดตามกล้ามเนื้อที่บ้านพัก
...
ขณะที่ความคืบหน้ากรณีพบรอยเท้าเสือโคร่งขนาดใหญ่ คาดว่าจะเป็นเสือโคร่งตัวเต็มวัย น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ที่บริเวณพื้นที่ทำกินของชาวบ้านชุมชนบ้านไผ่ หมู่ที่ 4 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดที่มีประชาชนถูกช้างป่าทำร้ายมากนัก ล่าสุดทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลานได้มอบหมายให้จัดชุดกำลังเข้าเฝ้าระวังผลักดัน โดยใช้กำลังจากเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 5, 3 และส่วนกลาง ในการใช้อุปกรณ์เฝ้าระวัง โดยไม่ให้เจ้าหน้าที่ออกห่างจากคณะไปคนเดียว
ในขณะปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนดูแลปศุสัตว์ของตนให้ดี และกำชับไม่ให้ออกไปนอกเคหสถานคนเดียวในเวลากลางคืน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ทราบตำแหน่งที่แน่ชัดของเสือโคร่งว่ามีการเคลื่อนย้ายไปยังบริเวณใด ทั้งนี้หากทราบเป็นตำแหน่งที่แน่ชัดของเสือโคร่งจะได้ทำการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ในการผลักดันเสือโคร่งกลับสู่ป่าด้วยอุปกรณ์และวิธีการที่เหมาะสมต่อไป.