เด็กชายวัย 2 ขวบที่กาฬสินธุ์ นอนอยู่บ้านแท้ๆ ยังถูกอสรพิษฉกกัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด พ่อแม่แทบช็อกลูกร้องไห้งอแงก่อนอาเจียนแล้วหมดสติ เปิดผ้าห่มดูเจอตัวการ เป็นงูเห่าพ่นพิษสีน้ำตาล ยังดีที่กู้ภัยมาเร็วช่วยนำส่งถึงมือหมอ พร้อมระบุชนิดงูจึงฉีดเซรุ่มได้ถูกจนเด็กรอด

วันที่ 7 ตุลาคม จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เอฟ กฤษณะ ได้โพสต์ภาพงูและข้อความในลักษณะเตือนภัยในช่วงหน้าฝนเกี่ยวกับงูเห่าสีน้ำตาลเข้าบ้านกัดเด็ก 2 ขวบ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 เวลาประมาณ 23.10 น. ทำให้พ่อและแม่เด็กต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอาการโคม่าเกือบเอาชีวิตไม่รอด โดยหน่วยกู้ภัยบัวขาว มูลนิธิเจ้าปู่บัวขาว ได้รุดไปที่เกิดเหตุแล้วทำการจับงูไว้ได้ พบเป็นงูเห่าพ่นพิษสีน้ำตาล

ล่าสุดวันที่ 7 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามบ้านที่เกิดเหตุ ได้พบกับนายสุรพิน ศรีบท อายุ 27 ปี และน.ส.นฤมล เกกาฤทธิ์ อายุ 19 ปี สามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.13 บ้านบัวขาว ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของเด็ก 2 ขวบที่โดนงูกัด โดยนายสุรพิน เล่าว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 23.10 น. ลูกชายวัย 2 ขวบ กำลังนอนอยู่บนที่นอน อยู่ดีๆ มีอาการงอแง ร้องไห้ เอานมให้กินก็ไม่ยอมกิน พร้อมชี้ว่าเจ็บตรงศีรษะ และบอกว่าโดนแมวกัด จึงได้เอามือไปลูบที่หัวปรากฏว่าบริเวณหัวของลูก มีอะไรเหนียวๆ จึงได้ใช้ไฟฉายโทรศัพท์ส่องดูแล้วก็เห็นเลือดอยู่บริเวณศีรษะของลูก ตนและภรรยาจึงได้ลุกจากที่นอนแล้วไปเปิดไฟ เพื่อหาว่าอะไรกัดลูกหลังจากที่เปิดไฟแล้ว จึงเปิดผ้าห่มออกก็ต้องตกใจอย่างมาก เพราะสิ่งที่พบคืองูตัวใหญ่ แต่ไม่ทราบชนิด และไม่ทราบว่าเป็นงูอะไร แต่มั่นใจว่างูตัวนี้กัดลูกชายแน่

...

นายสุรพิน กล่าวต่อว่า สักพักลูกชายก็เริ่มมีอาการอ่อนเพลีย จึงอุ้มออกมานอกบ้านปรากฏว่าเด็กเริ่มปากซีด และอาเจียน จึงให้ญาติโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเจ้าปู่บัวขาวว่ามีงูกัดเด็กแล้วรีบพาลูกชายไปโรงพยาบาลทันที หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาจับงู พบว่างูที่กัดลูกคืองูเห่าพ่นพิษสีน้ำตาล เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ส่งภาพส่งข้อมูลให้กับทีมแพทย์ รพ.สมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ ที่รักษา เพื่อทำการฉีดเซรุ่มให้กับเด็กแล้วกู้ภัยมูลนิธิเจ้าปู่บัวขาวได้รีบนำเอางูเห่าพ่นพิษสีน้ำตาลไปให้กับทีมแพทย์ที่รักษาเพื่อยืนยันชนิดของงู

"หลังจากนั้นทีมเเพทย์ของ รพ.สมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ได้ส่งตัวลูกชายไปรักษาต่อที่ รพ.กาฬสินธุ์ เพราะมีอาการหนัก หมดสติ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.64 จนอาการดีขึ้น และตอนนี้น้องหายเป็นปกติแล้วกลับมาแข็งแรงร่าเริงเหมือนเดิม ซึ่งรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ลูกปลอดภัย ตอนแรกคิดว่าลูกคงมีโอกาสรอดเพียงน้อยนิดเพราะงูที่กัดเป็นงูเง่า และอีกอย่างลูกก็ยังเล็กอยู่คงมีโอกาสรอดยาก ซึ่งโชคดีที่นำตัวส่งให้ทีมแพทย์รักษาได้ทัน และแพทย์รักษาอย่างเต็มที่ลูกชายจึงกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม จากที่คิดว่าลูกคงไม่รอดแล้ว"

อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่านที่มีบ้านเป็นต่ำชั้นเดียวหมั่นตรวจบริเวณบ้าน บริเวณที่นอนก่อนที่จะเข้านอนแล้วอย่าเปิดประตูหรือประตูหน้าต่างไว้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนสัตว์มีพิษมักจะหาที่หลบฝนอาจเข้าไปอยู่ในห้องนอนก็เป็นได้ อยากให้ระมัดระวังและหมั่นตรวจสอบมิเช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์แบบลูกชายของตน

ด้าน นายปริญญา สายสมบัติ อายุ 27 ปี อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยบัวขาว มูลนิธิเจ้าปู่บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นทีมอสรพิษวิทยา กล่าวว่า หลังรับแจ้งได้เข้ามาตรวจสอบภายในบ้าน พบว่าเป็นงูเห่าพ่นพิษสีน้ำตาลตัวใหญ่ ทีมกู้ภัยจึงช่วยกันจับนำตัวงูส่งให้กับแพทย์ เพื่อให้ทราบชนิดของงูและทำการรักษาได้อย่างถูกต้อง จนเด็กปลอดภัย

ขณะที่นายกฤษณะ ศรีพอ อายุ 21 ปี อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยบัวขาว มูลนิธิเจ้าปู่บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ ทีมอสรพิษวิทยาอีกคน และเป็นผู้โพสต์ กล่าวว่า อยากฝากเตือนผู้ที่มีบ้านต่ำ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน เนื่องจากงูเห่าไม่ชอบที่ชื้นและมักจะเข้าไปอาศัยในสถานที่แห้ง ดังนั้น หากใครมีบ้านต่ำควรหมั่นตรวจสอบรอบบ้าน และหาสิ่งของอุดรูต่างๆของบ้านเพื่อป้องกันงูหรือสัตว์มีพิษเข้ามา