ภาคกลางอ่วม ผจญน้ำเอ่อท่วม บิ๊กป้อมบินไปดูโคราช พิมายกระอักจม 2 เมตร (คลิป)

กอนช.แจงสถานการณ์น้ำทุกเขื่อนโล่ง ผ่านจุดพีกไปแล้ว ปริมาณน้ำภาพรวมดีขึ้น พายุที่ขนาบไทยไม่ส่งผลกระทบ “บิ๊กป้อม” พาคณะตรวจน้ำท่วมโคราช มวลน้ำจากลำเชียงไกรไหลเข้าพิมายหลายหมู่บ้านจมมิด 2 เมตร ย่านพื้นที่เศรษฐกิจตลาดสดไม่รอด ส่วนที่นคร สวรรค์สวนกล้วยไข่จมน้ำพินาศ เขื่อนป่าสักฯยังเร่งระบายน้ำออกพื้นที่สระบุรีอ่วมหนัก แต่น้ำที่ไหลเข้าเขื่อนลดลง คาดใน 10 วันเข้าสู่ภาวะปกติ ปภ.เผยยังเหลือ 18 จังหวัดประสบภัยน้ำท่วม

สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ยังไม่พ้นวิกฤติ ถึงแม้ว่าฝนจะทิ้งช่วงและยังไม่มีพายุลูกใหม่เข้ามา ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ทั้งภาคอีสาน เหนือ และภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับมวลน้ำเหนือจำนวนมหาศาลที่เร่งระบายลงมา

พิมายอ่วมหมู่บ้านจมมิด 2 เมตร

จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ปริมาณน้ำที่ไหลทะลักมาจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ล่าสุดขยายวงกว้างไปถึง อ.พิมาย ไหลเอ่อล้นลำน้ำมูล ลำน้ำจักราช เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร พื้นที่เศรษฐกิจตลาดสดพิมายเมืองใหม่ หมู่ 14 ต.ในเมือง บ้านเอื้ออาทร มีบ้านเรือนประชาชน 800 ครัวเรือนถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ หนักสุดที่บ้านวังกลาง หมู่ 10 บ้านวังกลาง ต.ในเมือง ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร หมู่บ้านถูกตัดขาด การเดินทางเข้าออกระยะทางกว่า 1 กม.ต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว นายสมมาตร์ เลือดสงคราม ผญบ.หมู่ 10 กล่าวว่า มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 40 หลังคาเรือน เข้าออกหมู่บ้านลำบาก มีเรือเพียงลำเดียวที่มีรอยรั่ว ต้องการเรือเข้าออกหมู่บ้าน บ้านบางหลังถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร วอนหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือด้วย ส่วนถนนมิตรภาพโคราช-ขอนแก่น บริเวณแยกตลาดแค อ.โนนสูง มีมวลน้ำไหลบ่าท่วมพื้นถนนและสองข้างทางเสมือนเป็นทะเลน้ำจืดที่เวิ้งว้างกว้างไกลสุดสายตา ส่งผลให้การจราจรติดขัดหลายกิโลเมตรทั้งขาเข้าขาออก

แม่น้ำสะแกกรังเอ่อท่วมวัด

จ.อุทัยธานี น้ำในแม่น้ำสะแกกรังเอ่อล้นเข้าท่วมภายในบริเวณวัดอุโปรสถาราม อ.เมืองอุทัยธานี ระดับน้ำประมาณ 20 ซม. พระสงฆ์ออกบิณฑบาตด้วยความยากลำบากเพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรง ผู้คนสัญจรไปมาต้องขี่รถ จยย.ลุยน้ำกันอย่างทุลักทุเล ส่วนที่บ้านเกาะสวรรค์ หมู่ 6 ต.เกาะเทโพ น้ำที่ท่วมขังขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับน้ำในแม่น้ำ เจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมวัดเกาะสวรรค์ ส่งผลให้พระสงฆ์เดือดร้อนเช่นกัน ชาวบ้านในพื้นที่ทำการเกษตรไร่มะละกอและไร่ข้าวโพดต่างจมน้ำได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หลายครอบครัวต้องขนย้ายสิ่งของมาวางไว้ข้างถนนเพราะน้ำเข้าท่วมในบ้าน และระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน

สวนกล้วยไข่นครสวรรค์จมมิด

จ.นครสวรรค์ แม่น้ำเจ้าพระยาไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนลุ่มต่ำพื้นที่บ้านเกาะหงษ์ ต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมืองนครสวรรค์ ระดับน้ำสูง 20-40 ซม.มีบ้านเรือนหลายสิบหลังคาเรือนได้รับผลกระทบ ชาวบ้านต้องต่อสะพานไม้เป็นทางเดินเข้าออก บางคนถึงกับขนเตาแก๊สออกมาปรุงอาหารนอกบ้าน ส่วนพื้นที่การเกษตรปลูกกล้วยไข่ที่อยู่ริมแม่น้ำถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ได้รับผลกระทบนับร้อยไร่ ระดับน้ำยังทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง สำหรับสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,666 ลบ.ม.ต่อวินาที แม่น้ำปิงมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,065 ลบ.ม.ต่อวินาที แม่น้ำน่านมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,270 ลบ.ม.ต่อวินาที

เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม

สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ยังคงเร่งระบายน้ำลงท้ายเขื่อน เพราะเหลือเวลาอีกไม่นานจะเข้าสู่ช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ประมาณวันที่ 15 ต.ค. ประกอบกับจะมีมวลน้ำจากภาคเหนือที่จะไหลหลากลงมาอีกในสัปดาห์หน้า ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายจาก 2,779 ลบ.ม.ต่อวินาที ขึ้นไปที่ 2,801 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยังสูงกว่าขีดแดงถึง 25 ซม. วัดได้ 16.25 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทั้งนี้ จากระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวกระสอบทรายของชาวบ้านหลายๆจุดในพื้นที่ท้ายเขื่อน ต.หาดอาษา และ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา แตกมีน้ำทะลักเข้าท่วมอีกหลายชุมชน ทำให้มีชาวบ้านขนข้าวของขึ้นมานอนริมถนนสายชัยนาท-อินทร์บุรี เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการระบายน้ำสูงต่อเนื่องนี้จะส่งผลถึงระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่อใน จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ระดับน้ำจะสูงขึ้นด้วย

สิงห์บุรีรอรับแม่น้ำน้อยน้ำล้น

จ.สิงห์บุรี นายอุดร พาศิรายุธ นายกเทศมนตรีตำบลถอนสมอ อ.ท่าช้าง ประชุมพนักงานเทศบาลตำบลถอนสมอว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายางมณี อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เขตติดต่อ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี แจ้งสถานการณ์น้ำในแม่น้ำน้อยจะมีระดับสูงขึ้นอีก เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ขอแจ้งประชาสัมพันธ์ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อย และลำคลองระบายน้ำสาขา ให้เตรียมรับสถานการณ์และขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ส่วนที่หมู่ 1 ต.พิกุลทอง น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน 30 หลัง ชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของมาอาศัยที่ถนนสายพิกุลทอง-กระทุ่มโพรง ส่วนหมู่ 2 และหมู่ 3 เจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายมาเรียงและหินคลุกมาเทกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้านประชาชน

ผนึกกำลังป้องกันเมืองอ่างทอง

จ.อ่างทอง น้ำล้นตลิ่งเจ้าพระยาไหลบ่าท่วมพื้นที่ขยายวงกว้างและมวลน้ำไหลยังเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา ที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก น้ำในคลองโผงเผง สาขาแม่น้ำเจ้าพระยา เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนพื้นที่หมู่ 5 ได้รับผลกระทบกว่า 200 หลัง เช่นเดียวกับที่ ต.บางปลากด อ.ป่าโมก ยังคงอ่วมหนัก น้ำไหลทะลักเข้าหมู่บ้านได้รับความเสียหายกว่า 300 หลัง ส่วนในเขตเทศบาลเมืองอ่างทอง ย่านเศรษฐกิจ ศูนย์ราชการ ทางเทศบาลเร่งวางกระสอบทรายเพิ่มความแข็งแรงป้องกันแนวเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่งที่ระดับน้ำยังสูงขึ้นตลอดเวลา และยังต้องอุดรอยรั่วที่มีน้ำซึมมาตามแนวกำแพง มีชาวบ้าน ข้าราชการ ทหาร ลูกจ้างพนักงาน สามล้อแดงและมอเตอร์ไซค์รับจ้างร่วมกันกรอกกระสอบทรายเพื่อป้องกันเมือง ล่าสุดแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทองเพิ่มสูงขึ้น
อยู่ที่ 9.20 เมตรจากระดับกำแพงกั้น 10 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,800 ลบ.ม.ต่อวินาที

แม่น้ำป่าสักล้นเข้าเมืองสระบุรี

สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี หลังปริมาณน้ำเกินความจุจนต้องเร่งระบายออก ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะ จ.สระบุรี ที่บริเวณชุมชนเขาคูบา เทศบาลเมืองสระบุรี น้ำจากแม่น้ำป่าสักเอ่อล้นเข้าท่วมภายในหมู่บ้านกว่า 100 หลัง ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร บางหลังจมมิดหลังคา ชาวบ้านต่างเร่งขนของขึ้นมาไว้บนถนนสูง ขณะเดียวกันมวลน้ำขึ้นท่วมสะพานดำ เส้นทางระหว่างบ้านกล้วย-ตัวเมืองสระบุรี น้ำเอ่อสูงมาบนสะพานร่วม 70 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ต้องเลี่ยงไปใช้ถนนมิตรภาพและถนนเลี่ยงเมือง ส่วนร้านค้าบริเวณริมสะพานดำก็ถูกน้ำท่วมเข้าร้าน พ่อค้าแม่ค้าออกมาขายของกันไม่ได้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่เทศบาลนำกรวยยางมาวางป้องกันไม่ให้รถเล็กผ่านเพื่อความปลอดภัย

เมืองลิงต้านไม่ไหวน้ำซัดตลิ่งพัง

ส่วนน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก ต.เขาพระงาม ต.โคกกระเทียม อ.เมืองลพบุรี ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นกัดเซาะริมตลิ่งข้างบานประตูระบายน้ำของสำนักงานชลประทานที่ 10 โคกกระเทียม พังทลาย มวลน้ำเอ่อท่วมสำนักงานชลประทานที่ 10 บางส่วน เจ้าหน้าที่เร่งขนย้ายยานพาหนะออกมาจอดไว้ที่สูง และระดมกำลังเสริมแนวกันดิน ด้านหลังสำนักงานที่มีน้ำจาก ต.เขาพระงาม ไหลหลากเข้าท่วมซ้ำ ส่วนถนนสายพหลโยธิน ตั้งแต่แยกโคกกระเทียม ไปถึงสุดเขต ต.เขาพระงาม น้ำท่วมขัง รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ นอกจากนี้น้ำไหลบ่าขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมถึงศาลเยาวชนและครอบครัวที่ตั้งอยู่ริมคลองชัยนาท-ป่าสัก และบ้านเรือนประชาชนหลายหลัง ชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบล กู้ภัย ทหาร พากันเข้าช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน

ระดมสูบน้ำป้องอุโบสถเก่าแก่

จ.ปราจีนบุรี ปริมาณน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีที่ไหลผ่าน อ.เมืองปราจีนบุรี เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บ้านเรือนสองฝั่งแม่น้ำเริ่มถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะร้านอาคารหน้าโรงเรียนปราจีนราษฎรอำรุง ถูกน้ำท่วมจนต้องปิดบริการ และที่วัดแก้วพิจิตร วัดเก่าแก่ประจำจังหวัดที่มีความโดดเด่นของอุโบสถ เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทย จีน ยุโรป ขอม ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวมีเพียงแห่งเดียวในประเทศ น้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรีเอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณลานด้านนอกแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องนำกระสอบทรายมาวางอุดท่อและตั้งเครื่องสูบน้ำออกเพื่อป้องกันความเสียหายของพระอุโบสถ เช่นเดียวกับพื้นที่หน้าโรงเรียนปราจีนราษฎรอำรุง เป็นที่ตั้งสถานศึกษาอีกหลายแห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนปราจีนกัลยาณี วิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี น้ำเริ่มไหลเข้าท่อระบายน้ำ ต้องเร่งวางกระสอบทรายและตั้งเครื่องสูบน้ำป้องกันน้ำท่วมเช่นกัน

ทุกเขื่อนโล่ง–ผ่านจุดพีกไปแล้ว

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนภาพรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ขณะที่พายุที่ขนาบไทยอยู่ทั้งสองฝั่งก็จะไม่ส่งผลกระทบในระยะนี้ แต่จะยังคงมีอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่ส่งผลให้ประเทศไทยเกิดฝนตก จะมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ ระยะเวลาประมาณ 10 วันต่อจากนี้ เป็นช่วงที่จะมีฝนตกในพื้นที่ภาคใต้เป็นส่วนใหญ่ แต่ในช่วงวันที่ 2-3 ต.ค.คาดว่าจะมีน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะพื้นที่ริมฝั่ง ทั้งนี้ปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการรักษาให้ระดับน้ำทรงตัว คือการดึงน้ำออกไปทางฝั่งตะวันตก ผ่านคลองมะขามเฒ่าอู่ทอง และแม่น้ำท่าจีน ไปยัง จ.สุพรรณบุรี ช่วยตัดยอดน้ำออกไปได้ในปริมาณมาก

เขื่อนป่าสักฯน้ำไหลเข้าลดลง

สำหรับสถานการณ์ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ขณะนี้มีความจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น มีการระบายในอัตรา 1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที เนื่องจากจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้ระดับน้ำไหลผ่านสปิลเวย์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อัตราน้ำที่ไหลเข้ามีปริมาณลดลงแล้ว ขณะนี้เหลือมวลน้ำอีกราว 400 ล้าน ลบ.ม.ที่จะไหลเข้ามาในเขื่อนเพิ่มเติม ระดับน้ำบริเวณท้ายเขื่อนป่าสักฯที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ ถ้าภายหลังน้ำในเขื่อนป่าสักฯลดลงแล้ว ระดับน้ำแม่น้ำป่าสักก็จะลดลงตามลำดับภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ปริมาณน้ำจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคเหนือได้กว่า 1,800 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 1,200 ล้าน ลบ.ม. และในภาคกลางกว่า 700 ล้าน ลบ.ม.

นายกฯลงพื้นที่เมืองคอน 7 ต.ค.

มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯและ รมว.กลาโหม เตรียมลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 7 ต.ค. เพื่อไปดูการเตรียมความพร้อมบริหารจัดการน้ำบริเวณถนนพุทธภูมิ อ.เมืองนครศรีธรรมราช จากนั้นไปติดตามงานศูนย์ดิจิทัลชุมชนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่โรงเรียนมะม่วงสองต้น ต.มะม่วงสองต้น และไปดูการระบายน้ำที่คลองคูพาย ต.ในเมือง ทั้งนี้เดิมทีนายกฯมีกำหนดการลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 30 ก.ย. แต่ได้เลื่อนออกไป เนื่องจากต้องการลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักก่อน โดยเฉพาะจังหวัดในภาคกลาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จะมี ส.ส.ใต้พรรคพลังประชารัฐทั้ง 14 คนไปรอต้อนรับ

ปภ.เผย 18 จว.ยังประสบภัยน้ำ

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ปภ.ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.ถึงปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังบางอำเภอใน 18 จังหวัด ได้แก่ จ.สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตรกำแพงเพชร ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา อุบลราชธานี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ. รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

อุตุฯแจ้งฝนน้อยลงถึงวันที่ 4 ต.ค.

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายสภาพอากาศช่วงวันที่ 1-4 ต.ค. ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ส่วนช่วงวันที่ 5-7 ต.ค. ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ อนึ่งในช่วงวันที่ 5-7 ต.ค. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ

“บิ๊กป้อม” ตรวจน้ำท่วมโคราช

ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ นำคณะลงพื้นที่เทศบาลตำบลบัลลังก์
อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ติดตามการบริหารจัดการน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำลำเชียงไกร มี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมรัฐมนตรี แกนนำพรรค พปชร. และ ส.ส.รวมกว่า 40 คนมารอต้อนรับ อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก พปชร. นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค

สั่งเร่งซ่อมอ่างน้ำลำเชียงไกร

หลังรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในภาพรวมของ จ.นครราชสีมา และลุ่มน้ำลำเชียงไกร พล.อ.ประวิตรกล่าวมอบนโยบายให้เร่งบูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเร่งด่วน และเร่งรัดซ่อมอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร(ตอนล่าง)ให้เสร็จวันที่ 5 ต.ค. เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง รวมทั้งเร่งก่อสร้างอ่างเก็บน้ำทับรั้ง และอ่างเก็บน้ำซับกระจายให้เสร็จตามกำหนด ให้จังหวัดและกรมชลประทานวางแผนรับน้ำหลากและเก็บน้ำสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้ง จากนั้นได้เยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชนที่เทศบาลตำบลบัลลังก์ มอบถุงยังชีพ 100 ถุงบรรเทาความเดือดร้อน ก่อนเดินทางไปยังบริเวณก่อสร้างอาคารบังคับน้ำอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) เพื่อตรวจสภาพการชำรุดและปริมาณน้ำ สั่งการให้กรมชลประทานวางแผนซ่อมแซมให้เสร็จโดยเร็ว

“สิงห์” ส่งข้าวส่งน้ำให้ต่อเนื่อง

วันเดียวกัน นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และทีมสิงห์อาสา ร่วมกับมูลนิธิพุทธธรรม 31 (ฮุก 31) จ.นครราชสีมา ลงพื้นที่นำน้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารพร้อมทาน (ข้าวรีทอร์ท) อาหารกล่อง ไปมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่บ้านลำเชิงไกร ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา กับที่บ้านอ้อและบ้านไพล ต.กำปัง อ.โนนไทย รวมถึงบ้านกุดละลม ต.นาหนองแซง อ.เมืองชัยภูมิ นายรังสฤษดิ์กล่าวว่า กว่า 10 ปีที่สิงห์อาสา โดยพระยา ภิรมย์ภักดี ได้ทุ่มเทแรงใจช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ถือเป็นอีกปีที่เกิดอุทกภัยอย่างหนักหน่วง จึงได้จับมือกับเครือข่ายของเราช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่มาตั้งแต่เริ่มต้น หลังจากนี้จะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่ออยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน พร้อมส่งต่อความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว จนกว่าอุทกภัยครั้งนี้จะเบาบางลง