ลุงวัย 53 ปีคนอุดรธานี ไปตัดต้นรังจะเอาไม้ไปทำบ้าน ระหว่างตัดเลื่อยที่ใช้เกิดติด จึงไปเอาเลื่อยโซ่ยนต์มาตัดอีกด้าน ต้นไม้เลยเอนล้มแต่โชคร้ายที่วิ่งไปทางเดียวกันทำให้ถูกต้นไม้ใหญ่ทับตายคาที่
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 กันยายน 2564 พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีต้นไม้ล้มทับคนเสียชีวิต ที่ไร่มันสำปะหลัง บ้านห้วยสำราญ ต.โคกสะอาด จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เป็นไร่มันสำปะหลัง ที่กำลังยกร่องเตรียมปลูก ที่กลางไร่มันพบศพนายสมจิตร โพธิ์แสงใสย์ อายุ 53 ปี ชาวบ้าน หมู่ 6 ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ถูกต้นรังสูงประมาณ 15 เมตร ล้มทับเสียชีวิต สภาพนอนตะแคง สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีกรมท่า กางเกงยีนส์สีดำ มีเลือดไหลทะลักออกทางปาก พบเลื่อยโซ่ยนต์สีส้มวางอยู่ข้างศพ ผลการชันสูตรเบื้องต้น พบแรงกระแทกของต้นไม้ทำให้หน้าอบยุบ กรามหัก
...
นายคำผุย ขันติกรม อายุ 58 ปี เพื่อนผู้ตาย และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เมื่อเช้าวันนี้ตนพบผู้ตายที่ร้านขายของชำ ผู้ตายบอกว่าได้ขอตัดต้นรังของเพื่อนอีกคน เพื่อจะเอาไม้ไปทำบ้าน โดยเพื่อนได้ให้แล้ว ผู้ตายจึงชวนตนไปตัดด้วย ซึ่งตนเห็นว่าเพื่อนจะทำบ้านจึงมาช่วย ขณะผู้ตายใช้เลื่อยตัดต้นรังใกล้ขาด แต่ต้นไม้ได้หนีบเลื่อยเอาออกไม่ได้ ผู้ตายจึงเดินไปเอาเลื่อยโซ่ยนต์มาตัดต้นไม้อีกฝั่ง ทำให้ต้นไม้ค่อยล้มลง เป็นจังหวะเดียวกันกับผู้ตายได้พยายามวิ่งหลบต้นไม้ แต่โชคร้ายไปในทางเดียวกับที่ต้นไม้ล้ม ทำให้ต้นไม้ทับผู้ตาย เสียชีวิตคาที่ โดยเลื่อยโซ่ยนต์ยังไม่ดับเครื่อง ด้วยความตกใจ จึงได้โทรแจ้งตำรวจ
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐาน ว่าผู้ตายตัดต้นไม้จนล้ม แต่วิ่งหนีไปทางที่ต้นไม้ล้ม ทำให้ทับร่างเสียชีวิต ญาติไม่ติดใจจึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป.