กลุ่มยูทูบเบอร์ล่าผีหอบกระเช้าขอโทษ ประธาน และ กก.มูลนิธิพุทธธรรม 31 หลังแอบเข้าไปถ่ายคลิปล่าผีโดยไม่ได้รับอนุญาต โดย กก.มูลนิธิฮุก 31 มีมติไม่เอาเรื่อง แต่ย้ำห้ามบุกรุกและเข้าไปรบกวนในสุสานอีก
ความคืบหน้ากรณีที่ยูทูบเบอร์ช่องแก๊งกลัวผี ไปล่าผีที่สุสานแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ปรากฏว่าเจอดี "ผีดึงเสื้อ จะจะ" วิ่งหนีแทบไม่ทัน ต่อมา นายประวิทย์ อัศวินชัย ประธานมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ปรึกษากับกรรมการมูลนิธิ เบื้องต้นได้เตรียมแจ้งความ 3 หนุ่มยูทูบเบอร์ที่เข้าไปถ่ายทำรายการในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนั้น พ่อของหนึ่งในยูทูบเบอร์กลุ่มดังกล่าวได้โทรศัพท์ติดต่อมาร้องขอไม่ให้เอาเรื่องและเตรียมให้ลูกของตนเข้ามาขอขมากับทางมูลนิธิในช่วงบ่ายของวันนี้ เนื่องจากอ้างว่าลูกของตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากการที่ได้ปรึกษากับคณะกรรมการมูลนิธิ 31 จ.นครราชสีมา มีมติยินยอมจะไม่เอาความ
...
นายประวิทย์ กล่าวว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้น ทางมูลนิธิฯ เตรียมเข้าไปตรวจสอบพื้นที่และหาวิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เบื้องต้นต้องเข้าไปจัดการกับผู้ดูแลสุสาน เนื่องจากเป็นผู้เปิดให้มีผู้เข้าไปบุกรุกในสุสาน จากนี้จะเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเข้าสุสาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าเข้าไปบุกรุก เนื่องจากเป็นสุสานของคนไทยเชื้อสายจีน มีพื้นที่กว่า 130 ไร่ ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งอรุณ ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา อยู่ในความดูแลของมูลนิธิพุทธรรมฮุก 31 นครราชสีมา โดยในจุดที่กลุ่มยูทูบเบอร์เข้าไปบุกรุกถ่ายทำเป็นที่บรรจุศพไร้ญาติ
"กรณีนี้ถือเป็นความเสียหายมูลนิธิฯ 31 ซึ่งอาจจะทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดว่าทางมูลนิธิฯ รู้เห็นเป็นใจในการกระทำเช่นนี้ ทางมูลนิธิฯ ขอยืนยันว่าไม่มีได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว จากนี้หากมีเหตุการณ์บุกรุกสุสานเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทางมูลนิธิฮุก 31 จะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด จึงขอเตือนกลุ่มวัยรุ่นที่มีความคึกคะนอง อย่าได้เข้ามารบกวนหรือสร้างความเดือดร้อนภายในสุสานแห่งนี้" ประธานมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา กล่าว
ล่าสุดเมื่อ 14.00 น. วันเดียวกัน นายพงศ์พันธ์ สัตย์ธรรม หนึ่งในทีมงานที่เข้าถ่ายทำซึ่งเป็นผู้ที่ผ่ามะพร้าวล้างหน้าเพื่อน พร้อมทีมงานทั้ง 3 คน และผู้ใหญ่ 1 คน ซึ่งเป็นพ่อของ 1 ใน 3 คนนั้น ได้เข้าพบกับประธานมูลนิธิฯ พร้อมทั้งกรรมการมูลนิธิฯ เพื่อนำกระเช้าขอขมาและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น
...
นายพงศ์พันธ์ เปิดเผยว่า ต้องขอโทษทางมูลนิธิฯ และประธานมูลนิธิฯ ด้วยที่เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการเข้าไปในครั้งนี้ทางมูลนิธิฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แล้วต้องขอขอบคุณทางประธานมูลนิธิฯ ที่ไม่เอาเรื่องและให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น จากนี้ไปก็จะใช้ความระมัดระวังในการถ่ายทำคลิปลักษณะเช่นนี้ ส่วนคลิปที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นคลิปที่ทำขึ้นเพื่อความบันเทิง จึงขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับชม ซึ่งก็บอกไว้แล้วตั้งแต่ต้นคลิป ส่วนคลิปนั้นตัดต่อหรือไม่ ขอสงวนไว้เนื่องจากเป็นขั้นตอนของการถ่ายรายการ อย่างไรก็ตามคลิปวิดีโอดังกล่าวมีผู้เข้าชมกว่า 4.2 แสนครั้ง ในเวลาเพียง 4 วัน.