เมียเจ้าของอู่เคาะพ่นสีรถยนต์ โวยถูกครูสาวแย่งผัวไปกก บอกผู้ชายผู้หญิงต่างคนต่างขายฝันให้กันและกัน ฝ่ายชายหวังจะได้เงินทุนจากครูมาเปิดอู่ใหม่ ส่วนฝ่ายหญิงคิดว่าได้สามีรวย ขับรถไปหาครูไม่ซ้ำคัน หารู้ไม่ว่าเป็นรถลูกค้าเอามาซ่อม ขณะครูสาวโต้ เข้าใจผิด ไม่เคยคิดเอาไม้ใกล้ฝั่งมาเป็นสามี
วันที่ 26 ก.ค.64 นางเอ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี ภรรยาเจ้าของอู่เคาะพ่นสีรถยนต์ ชาว อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ร้องสื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากร้องเรียนต้นสังกัดของ ครูบี(นามสมมติ) อายุ 44 ปี ครูสอนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ไปแย่งสามีของตัวเองวัย 56 ปี แล้วไม่มีความคืบหน้า
นางเอ เล่าว่า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ครูบี เอารถที่เฉี่ยวชนกัน 2 คัน ไปซ่อมที่อู่ซ่อมรถของสามี จากนั้นได้มีการแลกเบอร์โทรกัน ผ่านไปประมาณ 1 เดือน สามีก็เริ่มผิดปกติ บางวันไม่เข้าบ้าน แต่ละครั้งที่ออกไปขอเงินติดตัวไปประมาณ 2,000 บาท แล้วหายไปทั้งคืน เมื่อถามบอกว่าไปบ้านเพื่อน ตนก็ไม่เคยติดใจ เพราะสามีไม่เคยเหลวไหล จนกระทั่งมีคนเห็นรถยนต์สามีไปจอดที่บ้านครูบีจนถึงเช้า จึงเริ่มสงสัย และตามไปดูให้เห็นกับตา พบว่ารถยนต์ที่ไปจอดบ้านครูทั้งคืนเป็นรถของสามีจริง จนกระทั่งสามียอมรับว่าไปนอนจริง แต่ไม่มีอะไรกัน
...
ต่อมา ครอบครัวพยายามเค้นถาม สามีกลับหนีไปกับครูบี ไปที่จังหวัดอุบลราชธานี นาน 3 วัน โดยระหว่างที่สามีอยู่จังหวัดอุบลฯ ได้โทรกลับมาหาลูกเขยว่า “พ่อยกอู่ให้แล้วนะ” ส่วนพ่อจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับครูบี เพราะครูบีจะกู้เงินเปิดอู่ใหญ่ให้ และครูบีจะหย่ากับสามีที่ทำงานอยู่เมืองนอก จนผ่านไป 3 วัน สามีกลับมาบ้าน เมื่อถามไม่ยอมตอบ และบอกว่าจะเลิกกับครู แต่ยังทำตัวเหมือนเดิมคือแอบไปหาครูเป็นประจำ จึงนำหลักฐานเป็นภาพขณะทั้งสองนั่งคุยหยอกล้อกัน นวดให้กันในอู่ ไปร้องเรียนที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
สำหรับสาเหตุที่สามีไปติดพันกับครูบี ส่วนตัวเชื่อว่าทั้งสองคนน่าจะขายฝันให้กัน ฝ่ายหญิงขายฝันว่าจะเปิดอู่ใหม่ให้ ซึ่งคาดว่า ครูบี หลีกเลี่ยงการจ่ายเงินค่าซ่อมรถจำนวนกว่า 40,000 บาท ส่วนครูบีอาจจะคิดว่าสามีเป็นคนมีเงิน เพราะขับรถไปหาไม่ซ้ำคัน แต่หารู้ไม่ว่ารถที่สามีขับไปหา มีทั้งรถลูกสาว และรถของลูกค้าที่นำมาซ่อม
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามครูบี ผู้ถูกกล่าวหา ออกมาระบุว่า อาจจะมีการเข้าใจผิดกัน ตนมีสามีแล้ว มีลูกแล้ว จะคิดอะไรกับคนอายุ 56 ปี ที่เหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ตนยืนยันว่าไม่เคยคิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับสามีคนอื่น
ทางด้าน นายสุชิต ชมภูวงศ์ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้รับเรื่องการร้องเรียนจากภรรยาของเจ้าของอู่แล้ว เบื้องต้น ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ซึ่งจะเป็นไปตามหลักการ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และการสอบสวนจะต้องอิงข้อกฎหมายด้วย
ขณะที่ น.ส.นิด ลูกสาวเจ้าของอู่ซ่อมรถ กล่าววว่า หลังจากรู้เรื่องระแคะระคาย ตนได้เอา GPS ไปติดในรถของพ่อ รู้เส้นทางไปไหนมาโดยตลอด ถึงขั้นตามไปดูพบว่าทั้งสองอยู่ด้วยกัน แต่ทำอะไรไม่ได้
"อยากจะเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับเขตพื้นที่การศึกษา ให้เอาผิดครู ซึ่งเป็นถึงแม่พิมพ์ของชาติ กลับมาทำผิดศีลธรรมเสียเอง ส่วนหลักฐานได้รวบรวมไว้หมดแล้ว ตอนนี้ครอบครัวรับไม่ได้กับการกระทำของครู เพราะมีการอยู่ด้วยกันแบบเปิดเผยไม่อายฟ้าดิน ทั้งที่ฝ่ายชายมีภรรยา มีลูกด้วยกันถึง 3 คน"