พิษโควิด-19 ทำช้างตกงานหลายร้อยเชือก แห่กลับมาตายเอาดาบหน้าที่บ้านเกิดใน จ.สุรินทร์ ไร้นักท่องเที่ยวมาหมู่บ้านช้าง ขณะที่ อบต.ในพื้นที่ ต้องหางานให้ควาญช้างทำเพื่อมีรายได้เลี้ยงครอบครัว
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.64 ที่บ้านตากลาง หมู่บ้านช้าง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีการเลี้ยงช้างไว้ในหมู่บ้านและชุมชนมากกว่า 300 เชือก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งก่อนช่วงที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมความน่ารักฉลาดแสนรู้ของช้าง ที่เปิดการแสดงในศูนย์คชศึกษา โดยมีโครงการโลกของช้าง (Elephant World) ตั้งอยู่ภายใน เป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและจังหวัดสุรินทร์ โดยเนรมิตพื้นที่กว่า 500 ไร่ เป็นศูนย์อนุรักษ์ช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก
...
ภายในหมู่บ้านช้างแห่งนี้มีทั้งการจัดแสดงเรื่องราวของช้าง เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลทางวิชาการของช้าง และจะมีช้างอยู่ที่นี่มากที่สุดในโลกด้วย ในการดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และชมวิถีความเป็นอยู่ของช้างแบบธรรมชาติ ในโครงการคชอาณาจักร องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แต่หลังจากการเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ระลอกเดือน เม.ย.มาจนถึงเดือน มิ.ย.2564 ที่เป็นการแพร่ระบาดจาก กทม.และปริมณฑล ช่วงปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง มีการเดินทางกลับบ้านมายังต่างจังหวัดของประชาชน มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กระจายออกสู่พื้นที่ต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดผลกระทบอย่างหนัก ทำให้ต้องปิดการแสดงของช้าง ควาญช้างไม่มีรายได้เข้ามาเลี้ยงครอบครัวและซื้ออาหารให้ช้าง
ช้างที่เดินทางไปทำงานรับจ้างให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสามารถ ความฉลาดน่ารัก หรือแท็กซี่ช้างบริการนักท่องเที่ยวตามปางช้างต่างๆ ทั้งในพื้นที่ภาคตะวันออก และพื้นที่ภาคใต้ เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ไม่มีนักท่องเที่ยว ทำให้ขาดรายได้ ควาญช้างต้องนำช้างกลับบ้านเกิดที่จังหวัดสุรินทร์ มีช้างเดินทางมาจากปางช้างต่างๆทั่วประเทศกว่า 160 เชือก มาพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านต่างๆ และที่ทำเลสาธารณประโยชน์ บริเวณลำน้ำวังทะลุ พื้นที่ตำบลกระโพ อ.ท่าตูม ซึ่งบรรดาควาญช้างได้นำช้างไปล่ามไว้ตามป่าริมลำน้ำ และหาซื้อต้นอ้อยต้นหญ้าเนเปียร์นำมาเลี้ยงช้างทุกวัน
...
ควาญช้างรายหนึ่ง กล่าวว่า ทุกวันนี้ควาญช้างได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นอย่างมาก เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ศูนย์คชศึกษา จะมีมาบ้างเล็กน้อยไม่กี่คน การแสดงของช้างก็ไม่มีเพราะไม่มีคนมาชม ช่วงนี้เลยหยุดการแสดงของช้าง เนื่องจากว่าการระบาดโควิด-19 กล้วยที่นำมาขายให้นักท่องเที่ยวเพื่อนำไปป้อนช้าง ก็ขายไม่ได้ ไม่มีคนชื้อก็เอาไปให้ช้างกิน ยังดีที่ภายในศูนย์คชศึกษายังมีการปลูกต้นหญ้าเนเปียร์ ก็ตัดมาเลี้ยงช้างได้ แต่ยังไม่เพียงพอ ต้องหาซื้อต้นอ้อย หรือไม้อื่นที่ช้างชอบกิน นำมาเลี้ยงช้าง เดือดร้อนก็ไม่มีเงินไปซื้ออาหารให้ช้าง เพราะแต่ละวันช้างกินอาหารเยอะ
ขณะที่ นายดิสพงษ์ นับวันดี ปลัด อบต.กระโพ กล่าวว่า ช่วงนี้ควาญช้างในพื้นที่ตำบลกระโพ ประสบปัญหาได้รับความเดือดร้อนไม่มีรายได้ จากการนำช้างไปแสดงความสามารถ หรือให้นักท่องเที่ยวได้ชมตามปางช้างๆทั่วประเทศ เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวปิด ควาญช้างก็นำช้างกลับบ้านในพื้นที่ตำบลกระโพ มีอยู่ถึง 160 เชือกที่เดินทางกลับมาบ้าน และช้างที่เดินทางกลับมาบ้านขาดรายได้ คนเลี้ยงช้างเดือดร้อน ซึ่งทาง อบต.กระโพ ได้ประสานไปยังสำนักงานแรงงานจังหวัดสุรินทร์ เพื่อของบจ้างแรงงาน ซึ่งได้งบประมาณมาจำนวน 380,000 บาท เพื่อจ้างแรงงานคนเลี้ยงในการปรับภูมิทัศน์ตัดหญ้า พัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ เป็นค่าจ้างแรงงานวันละ 300 บาทต่อคน จำนวน 10 วัน เริ่มได้ในเดือน ก.ค. และไปสิ้นสุดในต้นเดือน ส.ค.64 นี้
...
ปลัด อบต.กระโพ กล่าวด้วยว่า นอกจากนั้นยังได้ประสานภาคเอกชนในการพัฒนาอาชีพให้ยั่งยืนและพัฒนาพื้นที่ในการปลูกอาหารให้ช้างแบบยั่งยืนเช่นกัน ซึ่งทาง อบต.กระโพ ได้ให้การสนับสนุนโครงการอย่างเต็มที่เพื่อให้คนกับช้างได้อยู่บ้านแบบมั่นคงทางรายได้และอาหาร สำหรับช้างในพื้นที่ตำบลกระโพ ขณะนี้มีอยู่กว่า 300 เชือก ทั้งภายในศูนย์คชศึกษา ในโครงการคชอาณาจักร และช้างเดินทางกลับจากปางช้างต่างๆ ทั่วประเทศ.