ตำรวจ ฝ่ายปกครอง 2 อำเภอ สนธิกำลัง ตรวจค้น หจก.ขายอะไหล่รถไถนายี่ห้อดัง รวบเสี่ยพร้อมลูกจ้าง ข้อหารับซื้อของโจร หลังพบเครื่องยนต์รถไถที่หายไป และชาวนาได้ติดจีพีเอสไว้ เพื่อจับโจร
วันที่ 19 มิ.ย. 64 พ.ต.อ.ภูไทย เชาว์สูงเนิน ผกก.สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ นายอำเภอด่านขุนทด ได้รับการร้องเรียนจาก นายธวัชชัย สุภารี กำนันตำบลบ้านแปรง ผู้นำชุมชน และชาวบ้านตำบลต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องรถไถนาคูโบต้า ถูกโจรกรรมอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดประชุมทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปกครอง กำนัน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางป้องกัน โดยให้มีการเฝ้าระวังเครื่องยนต์ของตนเองให้ดีที่สุด หรือหากใครพอมีกำลังทรัพย์ ให้ทำการติดตั้ง GPS ไว้กับเครื่องรถไถนาเพื่อการติดตาม ซึ่งต่อมาได้มี นางสาคร แดนประมูล อายุ 45 ชาวบ้านหมู่ที่ 2 ต.บ้านแปรง และนายดวน ปั่นกลาง อายุ 49 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 12 ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด ว่าเครื่องมือการเกษตรของตน (ซึ่งติด GPS) นำไปสูบน้ำเข้านา ถูกคนร้ายโจรกรรมไป เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจทาง GPS พบความเคลื่อนไหว พิกัดของเครื่องยนต์อยู่ที่ หจก.บำเหน็จยนต์ เลขที่ 242/1 หมู่ 21 ถนนสุรนยาราย ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ
...
ดังนั้น เมื่อบ่ายวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ภูไทย พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุณศักดิ์ วรรณโกษิต รอง.ผกก.สส. พ.ต.ท. วิรัตน์ จันทร์อินทร์ สว.สส. นายชยานนท์ สุวรรณทรัพย์ นายสุระศักดิ์ ขันตี นายเอกวิทย์ สังหลัง ปลัดอำเภอด่านขุนทด และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ด่านขุนทด สนธิกำลังกับ พ.ต.ท.พัลลภ มณีนาค รองผกก.สส.สภ.บำเหน็จณรงค์ และตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.บำเหน็จณรงค์ นำหมายค้นของศาลจังหวัดสีคิ้ว เข้าตรวจค้น หจก.บำเหน็จยนต์ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ ขนาด 4 ห้อง สูง 2 ชั้นครึ่ง มีป้ายชื่อร้านขนาดใหญ่บนชั้น 2-3 ข้อความว่า "ศูนย์ซ่อมและขายอะไหล่แท้ สยามคูโบต้า บำเหน็จยนต์" และป้ายไวนิลแขวนยาวเต็มหน้าร้าน มีข้อความโฆษณาว่า “ศูนย์ผลิตเครื่องมือเกษตร จำหน่ายเครื่องยนต์เก่าใหม่” โดยมีรถไถนาคูโบต้าแบบเดินตาม ทั้งเก่าและใหม่ จอดโชว์หน้าร้าน และภายในร้านจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ อะไหล่เก่าใหม่ วางไว้เต็มแน่นร้านทั้ง 4 ห้อง มีนายเศรษฐวิทย์ ประจักษ์จิตร อายุ 61 ปี พร้อมภรรยา แสดงตนเป็นเจ้าของร้าน
จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบเครื่องรถไถนา ติด GPS ที่มีหมายเลขเครื่องตรงตามที่แจ้งความไว้ทั้ง 2 เครื่อง พนักงานของร้านกำลังล้างและทำสีเครื่องใหม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่นั้น ได้รับแจ้งเพิ่มเติมจาก สภ.ด่านขุนทด ว่ามีชาวบ้าน ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด มาร้องเรียนเครื่องรถไถคูโบต้า สูญหาย อีก 4 เครื่อง และตรวจพบว่าอยู่ในร้านนี้ทั้ง 4 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้ทั้ง 6 เครื่อง นอกจากนี้ยังพบเสื้อสูบเครื่องยนต์ต้องสงสัย ที่ขัดล้างเรียบร้อยพร้อมขาย อีก 6 เครื่อง จึงตรวจยึดไว้รวมทั้งหมด 12 เครื่อง ตรวจยึดเอกสารการเงิน อาทิ สมุดธนาคาร 14 เล่ม สมุดงบดุลการเงิน รวมทั้งโทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อซื้อขายกับลูกค้า อีก 2 เครื่อง นำไปตรวจสอบ ส่วนสามีภรรยาเจ้าของร้าน นำตัวไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.บำเหน็จณรงค์ ซึ่งการตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ มี พ.ต.อ.พิชิต มีแสง รอง ผบก.จว.ชัยภูมิ เดินทางมาเป็นสักขีพยานให้ด้วย
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจค้นอู่ต่อรถอีแต๋น ขนาด 4 ไร่ เลขที่ 307-308 หมู่ 21 ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ของนายเศรษฐวิทย์ ประจักษ์จิตร อายุ 61 ปี โดยได้อ่านหมายค้นจุดนี้ให้นายเศรษฐวิทย์ ฟังว่ามาตรวจค้นเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งนายเศรษฐวิทย์ นำตรวจค้นทั่วทั้งอู่ จุดนี้ยังไม่พบเครื่องยนต์ที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
พ.ต.อ. ภูไทย ผกก.สภ.ด่านขุนทด กล่าวด้วยว่า เวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายเศรษฐวิทย์ ประจักษ์จิตร พร้อมด้วยลูกจ้างใน หจก.บำเหน็จยนต์ 3 คน เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่ สภ.ด่านขุนทด โดยมีบุตรสาวนายเศรษฐวิทย์ และทนายความ ติดตามมาฟังการสอบสวนด้วย มี พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.จว. นครราชสีมา มาทำการสอบสวนด้วยตัวเอง โดยห้ามสื่อมวลชนเข้ารับฟังหรือบันทึกภาพเด็ดขาด ใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 5 ชั่วโมง เบื้องต้นตั้งข้อหานายเศรษฐวิทย์ และลูกจ้าง 3 คน ฐานร่วมกันรับซื้อของโจร แต่ไม่ทราบรายละเอียดของการสอบสวน ทราบเพียงว่า นายเศรษฐวิทย์ขอไปให้การในชั้นศาล จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสีคิ้วต่อไป.
...