ย้อนเก็บตกแฟ้มคดีการตายของ “น้องชมพู่” ที่ใช้เวลานานขวบปี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ส่งทีมงานตามรอยในหมู่บ้านกกกอก และบนภูเหล็กไฟ ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ท่ามกลางแรงกดดันจาก “สังคมออนไลน์” พยายามทำลายความน่าเชื่อถือในฝีมือการทำงานของตำรวจ

กระทั่งขอศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับ นายไชย์พล วิภา อายุ 44 ปี “ลุงพล” ลุงเขยของเหยื่อเด็กวัย 3 ขวบเศษ

“เราทำงาน ไม่ได้ทำเพื่อจะจับใคร เราทำเพื่อหวังผลในการดำเนินคดีในชั้นศาล การสืบสวนไม่ได้มองว่า แพ้หรือชนะในคดี เราจะระมัดระวังเรื่องพวกนี้มาก เพราะหากตำรวจแพ้มักถูกบอกว่า จับแพะ ต้องดูทุกอย่างประกอบกัน ต้องดูทั้งเหตุและผล” พล.ต.อ.สุวัฒน์บอกมาตั้งแต่ต้น

ไม่ได้ทำอะไรนอกอำนาจหน้าที่ ตำรวจทำตามกฎหมาย หวังพิสูจน์ความจริง

ทำงานตามพยานหลักฐานชัดเจน ไม่ใช่ทำตามกระแสข่าว

“ถ้าไม่มีพยานหลักฐาน ตำรวจขอหมายไม่ได้ เราจะตั้งข้อหาใคร ต้องตามพยานหลักฐานเท่านั้น” เจ้าตัวย้ำ พร้อมยืนยันว่า ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน ส่วนใครจะคิดอย่างไรเป็นเรื่องของเขา เป็นสิทธิของทุกคนอยู่แล้ว

ไม่ได้ทำตามใจใคร ส่วนใครจะพอใจ ไม่พอใจ เอาที่สบายใจ

ความภูมิใจในความสำเร็จเบื้องต้นต่างหากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และทีมงานเก็บมาชื่นชมตัวเอง คือ คืนความยุติธรรม ให้แก่ครอบครัวของเหยื่อ

“ทีมตำรวจเราเคยรับปากไว้ว่าจะทำคดีนี้ให้ดีที่สุด เราก็ทำตามสัญญา แต่ว่ามันยังไม่จบ เราจะยังทำต่อไป” พล.ต.อ.สุวัฒน์ฝากถึงผู้สูญเสีย

แม่ที่หลั่งน้ำตาอาลัยจากการตายของลูกสาว.

...

สหบาท