หนุ่มอุดรฯ แรงงานในอิสราเอล บาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดในการสู้รบ ยันลงชื่อขอกลับประเทศ ขอเริ่มตั้งต้นใหม่ในไทย อยากมีชีวิตรอด ยังสู้รบทุกวัน ขณะที่แม่อยากให้ลูกกลับ เพราะห่วงจิตใจที่เพื่อนคนงานเดินทางไปพร้อมกันเสียชีวิตต่อหน้า เชื่อเงินหาเอาใหม่ได้ ส่วนเพื่อนแรงงานบาดเจ็บอีกคน ขอเดินหน้าทำงาน เพราะยังมีภาระ แต่อาจขอย้ายที่ทำงานแห่งใหม่ เราเลือกมาทำงานในประเทศที่มีการสู้รบจะต้องปรับตัวให้ได้
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยัง บ้านเลขที่ 11 บ้านดงเจริญ ม.7 ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ นายธนดล หรือ เบบี้ ขันธชัย อายุ 26 ปี แรงงานชาวอุดรธานีที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตีด้วยจรวดของกลุ่มฮามาส ที่โมชาฟ Ohad ในเมือง Eshkol ฉนวนกาซา โดยได้พบกับนางถวิล หรือ งอม ขันธชัย อายุ 51 ปี แม่ค้าขายดอกไม้ไหว้พระ ซึ่งเป็นแม่ของ นายธนดล พร้อมญาติ และเพื่อนบ้าน ที่ยังคงเดินทางมาให้กำลังใจนางถวิล

จากนั้น นางถวิล ได้โทรศัพท์เพื่อวิดีโอคอลคุยกับนายธนดล ลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดที่แก้มและหน้าท้อง โดยกลาวว่า ตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาอยู่ที่แคมป์ของนายจ้างแล้ว ซึ่งอาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ได้กินข้าวมา 2 วันแล้ว เพราะกินไม่ได้ เจ็บแผลที่ปากและแก้ม กินได้แต่นม และสถานการณ์ยังเหมือนเดิมที่มีการสู้รบกันอยู่ ไม่ได้ทำงาน พักผ่อนรักษาตัวอย่างเดียว ส่วนการจะเดินทางกลับประเทศไทยไม่รู้ว่าวันไหน แต่ทางกงสุลบอกว่าจะได้กลับเร็วๆ นี้
...
นายธนดล ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนเกิดเหตุได้ยินแต่เสียงมีอะไรตกลงมา ตนจึงรีบวิ่งจะเข้าไปหลบในบังเกอร์ แต่หลบไม่ทัน แล้วก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น ทำให้ตัวเองถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แก้มและที่ท้อง ซึ่งตนทำงานได้แค่ 3 วันเท่านั้น ตอนนี้ได้ลงทะเบียนเพื่อขอกลับประเทศไทย เพราะว่ากลัว ไม่กล้าอยู่ทำงานต่อ ส่วนจะได้กลับวันไหนยังไม่ทราบ ซึ่งนายจ้างว่าจะให้เงินค่าจ้างอยู่ รวมทั้งรัฐบาลของเขาด้วย ความหวังที่ไปทำงานที่อิสราเอลเพื่อหาเงินกลับบ้าน เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นก็คงไม่หาเงินแล้ว กลับไปหาเงินที่ประเทศไทย แบบมีชีวิตรอดดีกว่า ส่วนคนที่ตายก็เป็นเพื่อนร่วมห้องที่นอนด้วยกัน ซึ่งทางแม่และญาติก็อยากให้ตนกลับบ้าน กลับมาตั้งหลัก ส่วนคนที่บาดเจ็บที่เป็นคนอุดรธานี ก็รู้จักกัน และตอนนี้ก็อยู่ด้วยกัน

จากนั้นได้วิดีโอคอลคุยกับ นายณรงค์ศักดิ์ รอดชมภู แรงงานไทยชาว ต.หินโงม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี อีกคนที่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน โดยบอกว่า ตนได้รับบาดเจ็บที่แขนและที่ท้อง จากการถูกสะเก็ดระเบิด เป็นจุดเดียวกับที่น้องฤทธิ์ (เสียชีวิต) โดนสะเก็ดระเบิด ซึ่งตนยืนอยู่ไม่ไกลจากน้อง และเขาได้วิ่งผ่านหลังไป ส่วนพระที่คล้องคอเป็นพระที่บ้าน แต่ตอนถูกระเบิดไม่ไใด้ส่ และหลังจากที่ถูกระเบิด ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หมอเอกซเรย์ดูแล้วอาการการไม่หนัก จึงให้กลับแคมป์ หลังจากนั้นตนก็โทรศัพท์กลับไปหาแม่ที่ทราบข่าวก็ร้องไห้เป็นห่วง
“ส่วนที่มีการให้ลงทะเบียนขอกลับประเทศไทย ตอนนี้ผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกลับหรือไม่ แต่ก็คงจะไม่กลับ จะอยู่ทำงานต่อ เพราะยังมีภาระอีกมาก ถ้าเขายังให้อยู่ทำงานต่อได้ ก็คงจะขอย้ายที่ทำงาน แต่ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ยังยิงกันอยู่ ยังไม่ยุติการสู้รบ ไม่มีการประกาศหยุดยิง ได้กลับมาพักที่บ้านนายจ้าง กลับมาเคลียรืแคมป์เก็บข้าวของ ส่วนศพน้องที่เสียชีวิตนั้นได้ยินมาว่าเขาจะนำร่างกลับไปทำพิธีที่ประเทศไทยด้วยเครื่องบิน แต่ไม่รู้ว่าเขาจะเดินเรื่องได้นำกลับวันไหน ถ้าอย่างช้าก็เป็นเดือน เพราะว่าทางอิสราเอลก็ต้องมีการเดินเรื่องด้วย มันคงติดปัญหาตรงนี้ด้วย ผมขอฝากบอกทางบ้านว่าไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ยังโอเคอยู่ แต่คิดว่าคงจะไม่ลงทะเบียนกลับประเทศ ถ้าอยู่ตรงนี้ไม่โอเค ผมก็จะย้ายงาน แต่ตอนนี้ก็จะทำงานกับนายจ้างนี้ต่อ เพราะเขาเป็นคนที่โอเค เรามาทำงานกับประเทศที่มีสงคราม เราก็ต้องปรับตัว ต้องยอมรับ เพราะว่าเราตัดสินใจมาทำงานที่นี่แล้ว” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

ส่วน นางถวิล เปิดเผยว่า เหตุการณ์ผ่านมาแล้ว 2 วัน ก็ยังคงรู้สึกเป็นห่วงลูกอยู่ ถ้าให้กลับมาได้ตอนนี้ก็จะให้กลับมาตั้งแต่วานนี้แล้ว เพราะว่าเอาความปลอดภัยของลูกไว้ดีกว่า เรื่องเงินกลับมาหาทีหลังได้ เอาชีวิตลูกไว้ก่อน อยู่ที่โน่นมันเสี่ยง มันเป็นสงคราม ไม่รู้ว่าระเบิดจะมาตอนไหน เป็นห่วงลูกชายมาก เพราะมีลูกคนเดียว ไม่อยากสูญเสียลูก แค่เห็นว่าลูกเจ็บก็นอนไม่หลับแล้ว ตอนแรกไม่อยากให้ไป แต่ลูกบอกว่าได้เงินมากกว่าที่หาอยู่เมืองไทย จ่ายไปแสนกว่าบาท รวมเงินติดตัวให้ลูกไปด้วย ซึ่งก็หากู้เขามา เงินหาเอาใหม่ได้ แต่ชีวิตลูกหากเป็นอะไรไป หาใหม่ไม่ได้แล้ว
...
“เวลาที่เป็นห่วงลูก ก็สวดมนต์ไหว้พระ ขอพรให้ลูกอยู่แล้ว ส่วนเวลาคิดถึงลูก เราก็วิดีโอคอลคุยกันทุกวันได้เห็นหน้าลูก ยิ่งพอรู้ว่าลูกไปลงทะเบียนขอกลับประเทศก็ดีใจ แต่ว่าก็ยังคงเป็นห่วงอยู่ เพราะกว่าจะถึงวันกลับไม่รู้เมื่อไหร่ แล้วตอนนี้เขาก็ยังสู้รบกันอยู่ และยืนยันต้องการให้ลูกกลับ และคนที่เดินทางไปพร้อมกันเขาก็เสียชีวิต และเสียต่อหน้าลูกชายเรา” นางถวิล กล่าว.
