สลด ป้าวัย 60 ป่วยอัมพฤกษ์อยู่คนเดียว เกิดไฟไหม้บ้าน เพื่อนบ้านเห็นรีบแจ้งตำรวจ รถดับเพลิงเร่งช่วยเข้าสกัดไฟแต่ไม่ทันการณ์ ร่างถูกย่างดับสยองคาห้องนอน


เมื่อเวา 04.20 น. วันที่ 4 พ.ค.64 ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ เนตรสว่าง รอง สว.(สอบสวน) สภ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งเหตุ ไฟไหม้บ้านเลขที่ 48 หมู่ 12 ต.นาสี อ.สุวรรณคูหา จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ พร้อมด้วยสมาคมกู้ภัยพระไชยเชษฐาธิราช และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลสุวรรณคูหา และรถดับเพลิง อบต.นาสี ไปร่วมกันดับเพลิงที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งเมื่อไปถึงพบไฟกำลังลุกไหม้บ้านซึ่งเป็นบ้านสองชั้น โดยชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างเป็นปูน ส่วนหลังคาบ้านเป็นสำเร็จรูป เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต่างช่วยกันฉีดดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถดับไฟไว้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบว่าไฟได้ลุกไหม้ทรัพย์สินไปหมดเกือบทั้งหลัง เหลือเพียงซากปูนและหลังคา และได้พบร่างคนถูกไฟไหม้เกรียม 1 ราย นอนอยู่บริเวณชั้นล่างติดกับห้องครัว ทราบชื่อ นางแดง เกษรหอม อายุ 60 ปี โดยผู้เสียชีวิตเป็นผู้พิการ ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เดินได้ต้องใช้ไม้เท้าช่วยค้ำยัน อาศัยอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว

จากการสอบถามเพื่อนบ้านข้างเคียงทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางแดง ได้อาศัยอยู่บ้านที่เกิดเหตุตามลำพัง ส่วนบุตรชายได้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ สามีของนางแดงได้เสียชีวิตแล้ว และประมาณ 21.00 น.ผู้เสียชีวิตได้เข้านอน โดยมี นายบุญจันทร์ แสนเสน่ห์ ซึ่งมีบ้านอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร เป็นผู้เห็นว่าผู้เสียชีวิตไม่ได้เปิดไฟในบ้านเหมือนปกติ จนเวลา 04.10 น. ตื่นขึ้นมาเห็นแสงไฟลุกขึ้นบริเวณชั้นล่างของห้องครัว ซึ่งเป็นบริเวณที่ผู้เสียชีวิตนอนเป็นประจำทุกวัน

...

จากนั้นจึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และดับเพลิง จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าดับไฟใช้เวลา 30 นาที เพลิงจึงสงบ พบว่านางแดงได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิตอยู่บริเวณที่นอนชั้นล่างของบ้าน โดยไฟไม่ได้ลุกไหม้ไปบ้านหลังอื่น สอบถามแล้ว ผู้เสียชีวิตไม่มีประกันชีวิตอย่างอื่นนอกจาก ฌาปนกิจของหมู่บ้าน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งแพทย์เวร รพ.สุวรรณคูหา มาร่วมชันสูตรศพ แจ้งพิสูจน์หลักฐานจังหวัดหนองบัวลำภูมาตรวจที่เกิดเหตุเพื่อรอผลการพิสูจน์ว่าเกิดจากสาเหตุใด เป็นไฟฟ้าลัดวงจร หรือมีผู้กระทำให้เกิดเพลิงไหม้หรือไม่ สอบถามญาติแล้วญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงมอบร่างให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป.