- ต้นตาล หรือตาลโตนด มีขึ้นอยู่ในทุกภาคของประเทศ
- ตามท้องทุ่ง จะเห็นต้นตาลสูงเด่นเป็นสง่า ขณะที่ริมถนน แม่ค้าพ่อค้าจะนำลูกตาลสด มาวางขาย บางเจ้า “เฉาะ” ขายกันแบบสดๆ
- หน้าร้อน เดือนสี่ เดือนห้า คือฤดูกาลที่ "ลูกตาลสด" บนต้น ถูกตัดนำลงมาขาย
ที่ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา พ่อค้าแม่ค้านั่งเฉาะตาลกันแบบเงียบๆ ขายให้ลูกค้าที่มาซื้อกันตลอดทั้งวัน เมื่อถามถึงรายได้ หรือรายรับในแต่ละวัน
ข้างถนนสายหลัก อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ชาวบ้านหลายครอบครัว ออกมาขายลูกตาลเป็นอาชีพเสริมช่วงหน้าแล้ง ด้วยวิธี “เหมาต้นตาล” ที่ขึ้นเรียงรายตามทุ่งนา แล้วใช้ความสามารถด้านการปีนป่าย ปีนเก็บลูกตาลในทุกๆ เช้า นำลงมาผ่า หรือ “เฉาะตาล” นำลอนตาลบรรจุใส่ถุงขาย สร้างรายได้
นางอำนวย ของกิ่ง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/1ม.1 บ.สันเที๊ยะ ต.โนนไทย อ.โนนไทย เผยว่า ทำอาชีพผ่าลูกตาล "ขายลอนตาล" มาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ทำต่อจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่ใช้เป็นอาชีพเสริมหารายได้เลี้ยงครอบครัว
...
โดยจะขายลอนตาลในหน้าแล้ง หลังฤดูเก็บเกี่ยว ส่วนอาชีพหลักคือทำไร่ ทำนา และก่อสร้าง
ในช่วงเช้า นางอำนวย จะออกไปพร้อมสามี เก็บลูกตาลที่เหมาต้นจากชาวบ้าน โดยสามีเป็นคนปีนขึ้นไปตัดเอาลูกตาลอ่อนที่มีอายุประมาณ 2 เดือน ซึ่งแต่ละต้นสูง 20-30 เมตร ต้องใช้ความชำนาญในการปีนและระมัดระวังอย่างมาก จากนั้นนำลูกตาลลงมา ช่วยกันผ่าเอาลอนตาลที่อยู่ข้างในลูกตาล ซึ่งตาล 1 ลูกจะมีลอนตาล 2-3 ลอน
จากนั้น นางอำนวย ได้โชว์การผ่าลูกตาลอย่างคล่องแคล่ว จากประสบการณ์ที่ฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก จนมีความชำนาญ โดย นางอำนวย มีดีกรีเป็น “แชมป์ผ่าตาล” ของ อ.โนนไทย เอาชนะผู้ชายหลายคนจากการประกวดในครั้งนั้น สามารถผ่าเอาลอนตาลได้ 25 ลอน ต่อ 1 นาที หรือ 1 ลอน ใช้เวลาประมาณผ่า 3-5 วินาทีเท่านั้น
เมื่อได้ลอนตาลออกมาแล้ว นำไปล้างด้วยน้ำสะอาด ก่อนนำลอนตาลสดบรรจุถุงขาย ถุงละ 8-9 ชิ้น ราคาถุงละ 35 บาท หรือ 3 ถุง 100 บาท ส่งให้พ่อค้าแม่ค้าใน อ.โนนไทย สร้างรายได้วันละประมาณ 1,200 บาท โดยที่สามีปีนต้นตาลวันละ 5 ต้น รายได้เฉลี่ยต่อปี ประมาณ 5 หมื่นบาท เนื่องจากต้นตาล มีผลผลิตลูกตาลออกมาปีละ 1 ครั้งในช่วงเดือน ม.ค ถึง พ.ค.เท่านั้น
"ยังมีส่วนเปลือกบนของลูกตาล หรือที่ชาวบ้านเรียกหัวตาล สามารถนำประกอบอาหารรับประทานได้ โดยนำหัวตาลมาฝานเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นต้มกับน้ำมะขามเพื่อลดความขมและความฝาด ก่อนประกอบอาหารเป็นเมนูแกงหัวตาล หรือนำมาลวกจิ้มน้ำพริกรับประทานก็อร่อย โดยหัวตาลที่ผ่านการต้ม ขาย กก.ละ 50 บาท ถือว่าเป็นอาหารที่หากินยาก และเป็นอีกหนึ่งอาชีพจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่สร้างรายได้เป็นอย่างดีในยุคนี้"