กำลังใจท่วมท้นหวังให้น้องมิ้นท์ เหยื่อบั้งไฟ หายจากบาดเจ็บกลับสู่ครอบครัวนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาเข้าเยี่ยมอาการถึงห้องปลอดเชื้อ พร้อมให้กำลังใจพ่อแม่กับญาติที่เฝ้าติดตามอาการด้วยความเป็นห่วง ขณะที่แม่น้องมิ้นท์ยังทำใจไม่ได้ ลูกสาวคนเดียวต้องประสบชะตากรรม หวังให้เป็นเหยื่อสุดท้ายของการจุดบั้งไฟ แพทย์ระบุสมองได้รับความกระทบกระเทือนมาก ก้านสมองไม่ทำงาน อยู่ได้ด้วยยาและเครื่องช่วยหายใจ ผวจ.นครราชสีมาสั่งควบคุมเข้มการจุดพลุ จุดตะไลในงานพิธี พร้อมศึกษาข้อกฎหมายหากห้ามหรือยกเลิกได้จะห้ามทันที

จากเหตุสลดใจ ด.ญ.ณัฐชา หรือน้องมิ้นท์สวัสดี อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนอาจวิทยาคาร หมู่ 1 ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา กับเพื่อนนักเรียนกำลังเดินกลับบ้านหลังโรงเรียนเลิกช่วงเย็นวันที่ 29 มี.ค.แต่ยังไม่ทันพ้นประตูโรงเรียน จู่ๆ พลุบั้งไฟจุดในงานเผาศพที่วัดหน้าพระธาตุตกใส่กลางศีรษะ แล้วเกิดระเบิดขึ้น ทำให้น้องมิ้นท์ล้มทั้งยืนศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ มีไม้ทิ่มเข้าไปในกะโหลกส่วนเพื่อนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากสะเก็ดบั้งไฟ โดยน้องมิ้นท์นอนรักษาตัวที่หอผู้ป่วยหนักศัลยกรรม 1ชั้น6 อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รพ.มหาราชนครราชสีมา หลังแพทย์ผ่าตัดศีรษะ อาการยังอยู่ในขั้นโคม่า โดยมีพ่อแม่ญาติๆเฝ้าติดตามอาการด้วยความเป็นห่วง ส่วนผู้จุดพลุคือ นายนนทกรณ์ พรมเกตุ อายุ 35 ปี กับนายจำลอง พุษฎีดอนอายุ 35 ปี เป็นญาติเจ้าภาพงานศพ ตำรวจดำเนินคดีในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31มี.ค. นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ นายอำเภอปักธงชัย พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผกก.สภ.ปักธงชัย เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 1 ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจนายนิรุต สวัสดีอายุ 40 ปี และนางพัชรี ช่วงจะโป๊ะ อายุ 33 ปี พ่อแม่ของน้องมิ้นท์ โดยนำถุงยังชีพของกิ่งกาชาด และเงินจำนวนหนึ่งไปมอบให้ ซึ่งพ่อแม่น้องมิ้นท์ยังมีสีหน้าเศร้าสลด โดยเฉพาะนางพัชรีมีน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา เพราะยังทำใจกับเหตุที่เกิดขึ้นกับลูกน้อยไม่ได้

...

นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ นายอำเภอปักธงชัย กล่าวว่า อุบัติเหตุกับน้องมิ้นท์ครั้งนี้ ผู้จุดพลุบั้งไฟไม่ได้ขออนุญาตกับฝ่ายปกครอง หรือทางอำเภอปักธงชัย จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมบอกกับแม่ของน้องมิ้นท์ว่า ตอนเข้าเยี่ยมน้องช่วยกุมมือน้องแล้วบอกให้สู้ๆเป็นกำลังใจให้หายป่วยเร็วๆ ญาติพี่น้องรอวันน้องมิ้นท์หายป่วยกลับมาบ้านด้วยความเป็นห่วง ก่อนทิ้งท้ายว่าหากว่าครอบครัวของน้องมิ้นท์ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องใดๆขอให้บอก พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือทันที

ที่หอผู้ป่วยหนักศัลยกรรม 1 ชั้น 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รพ.มหาราชนครราชสีมา นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะ และเป็นตัวแทนนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา นำกระเช้าน้ำผลไม้และนมกล่องพร้อมเงินช่วยเหลือเยียวยามอบให้นางพัชรี ช่วงจะโป๊ะ และนายนิรุต สวัสดี แม่และพ่อของน้องมิ้นท์ ที่มาเฝ้าดูอาการน้องมิ้นท์อย่างใกล้ชิดด้วยสีหน้าเศร้าสลดก่อนเข้าเยี่ยมอาการน้องมิ้นท์นอนนิ่งไม่รู้สึกตัวอยู่บนเตียงคนไข้ในห้องปลอดเชื้อ โดยมีสายน้ำเกลือและสวมเครื่องช่วยหายใจ เครื่องตรวจสมอง รวมทั้งอุปกรณ์การแพทย์ชั้นสูง

นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ กล่าวภายหลังว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดกับน้องมิ้นท์ เหล่ากาชาดฯจึงเดินทางมาเยี่ยมพ่อแม่ให้กำลังใจ และปลอบขวัญให้เข้มแข็งโดยเฉพาะน้องมิ้นท์เป็นบุตรสาวคนเดียวของครอบครัว ซึ่งนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ก็ได้ฝากให้มาเยี่ยมด้วย ส่วนเรื่องอาการคงต้องถามทางคณะแพทย์ ไม่ทราบว่าอาการน้องจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ตนและท่านผู้ว่าฯได้แต่ภาวนาให้น้องมิ้นท์หายเร็วๆ หายวันหายคืน ดีขึ้นเร็ววัน ส่วนเรื่องการจุดพลุบั้งไฟนั้นควรจะต้องมีการเข้มงวด หรือไม่จำเป็นก็อาจจะลดหรือยกเลิกการใช้ไปเลย อันตรายก็จะไม่มีหรือลดน้อยลง

ด้าน นพ.บวร เกียรติมงคล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครราชสีมา เปิดเผยอาการน้องมิ้นท์ว่า สมองได้รับความกระทบกระเทือนมาก ก้านสมองไม่ทำงาน อาการค่อนข้างหนักขั้นโคม่า อาการขณะนี้อยู่ได้ด้วยยาและเครื่องช่วยหายใจ แนวโน้มค่อนข้างหนัก อาการยังไม่คงที่ และไม่ทรงตัว แพทย์ต้องดูแลใกล้ชิดเรียกว่านาทีต่อนาที คณะแพทย์เรารักษาเต็มที่มาตั้งแต่วันแรกแล้ว ทั้งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์และผ่าตัด อาการบาดเจ็บถือว่ารุนแรงมาก อยากฝากว่าพลุบั้งไฟถือเป็นวัตถุอันตรายอยู่แล้วต้องควบคุมให้ดี และอันนี้ไม่มีใครอยากให้เป็น

นางพัชรี ช่วงจะโป๊ะ อายุ 33 ปี แม่ของน้องมิ้นท์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า น้องมิ้นท์เป็นลูกสาวคนเดียว หัวแก้วหัวแหวน ต้องขอขอบคุณนายกเหล่ากาชาดและ ผวจ.นครราชสีมา ที่เข้ามาช่วยเหลือดูแลแทนน้องมิ้นท์ด้วย ตนเสียใจมากกับเหตุการณ์นี้ น้องมิ้นท์อาการยังทรงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อยากได้กำลังใจขอให้น้องหายไวๆ แพทย์บอกว่าให้ทำใจเพราะอาการหนัก อย่างไรก็ตาม ตนและแฟนก็ต้องสู้ต่อไป และขอฝากให้เป็นอุทาหรณ์ อย่าได้เกิดขึ้นกับลูกหลานคนไหนอีกเลย อยากให้เคสน้องมิ้นท์เป็นเคสสุดท้าย

ต่อมานายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวถึงการจุดพลุบั้งไฟเป็นเหตุให้มีเด็กได้รับบาดเจ็บว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจและไม่น่าเกิดขึ้น ปกติการจุดพลุบั้งไฟ จะต้องขออนุญาตจากทางส่วนราชการ แต่ครั้งนี้อาจเป็นเพราะประเพณีงานศพ เป็นวิถีของชาวบ้าน จึงมีการจุดพลุบั้งไฟตามความเชื่อ ส่วนตัวไม่อยากให้มีการจุดพลุ จุดบั้งไฟในงานพิธีต่างๆ เกรงส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนและประชาชน เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนราคาแพง ไม่มีประโยชน์ อันตราย สิ้นเปลือง ที่ผ่านมาได้กำชับให้ทุกอำเภอสอดส่องดูแล ต่อไปคงจะต้องกำชับเข้มงวดมากขึ้น พร้อมทั้งจะไปศึกษาดูข้อกฎหมาย ถ้าห้ามหรือยกเลิกการจุดพลุ จุดบั้งไฟได้ ก็จะห้ามทันที

...