รัวฆ่าอุกอาจ ร.ท.หนุ่ม หัวหน้าหมวดดุริยางค์ มทบ.210 ในค่ายพระยอดเมือง-ขวาง คนร้ายเป็นชาย ดักรออยู่ในมุมมืด สบโอกาสเหยื่อขี่รถ จยย.มุ่งหน้ากลับบ้าน เร่งเครื่องประกบยิง 3 นัด มั่นใจเหยื่อไม่รอดบึ่งหนีออกทางประตูหลังค่ายลอยนวล คาดเป็นฝีมือ “คนใน” ที่ชำนาญพื้นที่และมีการวางแผนเป็นอย่างดี มุ่งปมขัดแย้งเรื่องงาน รวมทั้งผู้บังคับบัญชาจนทำเรื่องขอย้ายออกจากหน่วย ขณะที่ แม่ทัพภาคที่ 2 เต้นสั่งย้าย ผบ.มทบ.210 ไปช่วยราชการที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนทันควัน
คนร้ายดักซุ่มประกบยิงเด็ดชีพ ร.ท.หนุ่มถึงในค่ายทหารอย่างอุกอาจ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.พ. พ.ต.อ.ณัชวิชญ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท.จิรุฏฐ์ พิมพา รอง ผกก.สส. ร.ต.ท.วัตรสันณห์ เนตรหาญ รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี ตำรวจ ศพฐ.ภ.จ.นครพนม ไปตรวจสอบ เก็บหลักฐานที่เกิดเหตุคนร้ายลอบยิง ร.ท.รุ่งเฉลิม พันธ์สวัสดิ์ หรือหมวดบอล อายุ 34 ปี หัวหน้าหมวดดุริยางค์ มณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) นครพนม บริเวณถนนหน้ากองร้อยสนับสนุนการช่วยรบ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 ค่ายพระยอดเมือง-ขวาง ถนนสาย 22 (สกลนคร-นครพนม) หมู่ 11 ต.กุรุคุ พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ห่างบ้านพักผู้ตายราว 300 เมตร เป็นจุดที่ไม่มีไฟส่องสว่าง ไม่มีเวรยามเพราะอยู่ด้านหลังของค่าย แต่ไม่พบหลักฐานใดๆเพิ่มเติม
สำหรับเหตุดักสังหารหมวดหนุ่มอย่างอุกอาจภายในค่าย เกิดขึ้นเมื่อสองทุ่ม วันที่ 10 ก.พ. ร.ต.ท.วัตรสันณห์ เนตรหาญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนภายในค่ายพระยอดเมือง-ขวาง นำกำลังไปสอบสวน พบเพียงกองเลือดกับรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ 100 สีบรอนซ์ ทะเบียน คขร 222 สงขลา ของผู้ตายล้มตะแคงอยู่ ส่วน ร.ท.รุ่งเฉลิม ผู้ตาย ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าต้นคอขวา 1 นัด และใต้รักแร้ขวา 2 นัด ถูกนำส่ง รพ.ค่ายพระยอด–เมืองขวาง ก่อนส่งต่อ รพ.นครพนม แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
...
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ร.ท.รุ่งเฉลิมผู้ตายกับภรรยา ขับรถเก๋งกลับจากทำธุระในตัวเมืองนครพนม เข้าไปที่หน้ากองร้อยหมวดดุริยางค์ทหาร แล้วผู้ตายลงไปขี่รถ จยย.ที่จอดไว้กลับบ้านพัก โดยภรรยาขับรถเก๋งกลับไปก่อน กระทั่งผ่านถนนหน้ากองร้อยสนับสนุนการช่วยรบ คนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถ จยย.สีขาว ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนดักซุ่มรออยู่ในมุมที่มืด ขี่รถตามประกบยิง 3 นัด จนรถของผู้ตายล้ม แล้วเร่งเครื่องหนีไปทางด้านหลังค่าย เป็นประตูรั้วลวดหนามสามารถขี่รถออกไปได้ ส่วนปมขัดแย้งตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ความขัดแย้งภายในที่ทำงาน เพราะเคยมีปัญหาขอย้ายออกจากพื้นที่มาก่อนหน้านี้ แต่อยู่ระหว่างรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา กับชู้สาว เพราะผู้ตายเป็นทหารหนุ่มไฟแรงหน้าตาดี และมีความสามารถในการเล่นดนตรี
พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จ.นครพนม เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่าคนร้ายมาคนเดียว ใช้ปืนลูกโม่ ขี่รถ จยย.ประกบยิงผู้ตายระยะประชิด เชื่อว่ามีการเตรียมการมาก่อนและชำนาญพื้นที่ น่าจะเป็น “คนใน” เพราะคนนอกยากจะเข้ามาได้ มีเพียงประตูหลังที่เป็นช่องทางธรรมชาติในการหลบหนี และกล้องวงจรปิดชำรุดมาหลายเดือนแล้ว ส่วนประเด็นสังหารให้น้ำหนักความขัดแย้งส่วนตัว ชู้สาว และยาเสพติด มากกว่าความขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชาด้านการทำงาน แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถจับคนร้ายได้
ส่วน พล.ต.สามารถ จินตสมิทธิ์ ผบ.มทบ.210 กล่าวว่า ผู้ตายเป็นนายทหารที่เลื่อนชั้นยศจากนายทหารยศจ่า จบโรงเรียนดุริยางค์ทหารบก รุ่น 48 ถือเป็นนายทหารอีกคนที่ตนรักชื่นชมในการทำงาน แต่มีปัญหาบางครั้งก็ว่ากล่าวตักเตือน เป็นเรื่องของการทำงานบกพร่องเล็กน้อย ไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรง ก่อนหน้านี้ผู้ตายทำงานที่ จ.ปัตตานี ย้ายมาที่ มทบ.210 นครพนม ประมาณ 3 ปี ไม่ได้อยู่ฝ่ายงานที่มีผลประโยชน์ ขัดแย้งภายใน ขอยืนยันไม่เคยมีอคติกับลูกน้องถึงแม้จะมีกระแสข่าวว่าขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชา หรือเรื่องทำงาน แต่เรื่องส่วนตัว หรือความขัดแย้งในครอบครัว รวมถึงปมขัดแย้งชู้สาว จะได้ประสานตำรวจสอบสวนสืบสวนเชิงลึก เชื่อว่าคนก่อเหตุต้องเป็นคนภายในที่มีการเตรียมการ และรู้ช่องทางหลบหนี
ที่กองทัพภาคที่ 2 พล.ท.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงคดีที่เกิดขึ้นว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต หน่วยต้นสังกัดได้ประสานและอำนวยความสะดวกตำรวจในการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง กองทัพภาคที่ 2 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาอีกคณะหนึ่งหาข้อเท็จจริง และกำหนดมาตรการช่วยเหลือ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการให้ช่วยเหลือดูแลสภาพจิตใจญาติผู้เสียชีวิต การจัดเตรียมพิธีศพ และการดูแลด้านสิทธิกำลังพลตามระเบียบ พร้อมกันนี้ ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.สามารถ จินตสมิทธิ์ ผบ.มทบ.210 มาช่วยราชการที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ชั่วคราว จนกว่าคณะกรรมการจะสอบสวนแล้วเสร็จสิ้น โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะสอบสวนสาเหตุความบกพร่องในการรักษาความปลอดภัยในบริเวณค่ายด้วย รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้บังคับกองร้อยรักษาการณ์ ทหารเวร ที่อยู่ในวันเกิดเหตุว่าเหตุใดจึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น