สกลนคร คือ 1 ในจังหวัดที่ประกาศสงครามเอาชนะไวรัสมรณะ “โควิด–19” รอบสอง เป็นพื้นที่สีเขียวได้ถึงทุกวันนี้
ทั้งหมดคงต้องชื่นชมทุกภาคส่วนไล่ตั้งแต่แพทย์ พยาบาล อสม. ตำรวจ ทหาร ยันพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนเจ้าของพื้นที่ร่วมกันผนึกกำลังเปิดสมรภูมิรบกับมหันตภัยโรคระบาดใหม่ในครั้งนี้
และที่ขาดไม่ได้คือหัวเรือใหญ่อย่าง นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผวจ.สกลนคร ที่นำส่วนราชการทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ ไม่เว้นแม้แต่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์
นอกเหนือจากการออกคำสั่งคุมเข้มจุดคัดกรองตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัดแล้ว กำลังใจถือเป็นเรื่องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ดังนั้น ช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นพ่อเมืองสกลนครออกตะลุยไปทุกที่ ไม่ใช่แค่ไปเยี่ยมเยียนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน แต่ยังรวมถึงการดูแลทุกข์สุขชาวบ้านคนหาเช้ากินค่ำที่พลอยได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง
สำคัญสุดคงหนีไม่พ้นผู้ตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเดินทางกลับจากไปทำงานต่างถิ่น โดยเฉพาะจังหวัดพื้นที่โซนแดง และจำเป็นต้องกักตัว 14 วัน พวกเขาต้องเจอปัญหาอุปสรรคสารพัด ทั้งการใช้ชีวิตไม่ปกติสุข และวิตกกลัวว่าตัวเองจะโชคร้ายล้มป่วย
ไหนจะญาติพี่น้องคนรอบข้างไปจนถึงคนในชุมชนที่อยู่ในอาการหวาดระแวงว่าคนกลุ่มนี้จะนำเชื้อร้ายไปแพร่กระจายในหมู่บ้าน
หลายคนเลือกที่จะปลีกวิเวกหนีไปกางเต็นท์นอนกักตัวอยู่ในสวนยางพาราใน อ.สว่างแดนดิน ห่างไกลบ้านเรือนผู้คน เพื่อไม่ให้ทุกฝ่ายเกิดความกังวลใจ
แต่ท่านผู้ว่าฯก็ไม่เคยทอดทิ้ง ควงคู่นายอำเภอ ว่าที่ ร.ต.รวยรุ่ง ใครบุตร ลงไปดูแลปลอบขวัญให้กำลังใจด้วยตัวเอง พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่จนครบกำหนดการกักตัว
...
หากพบเชื้อจะส่งตัวไปรักษาทันที แต่ถ้าไม่แสดงอาการใดๆก็สามารถกลับมาดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างสบายใจ
นี่คือเหตุผลว่าทำไมสกลนครถึงปลอดเชื้อ รักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น.
สุทัศน์ บุญช่วยเหลือ /รายงาน