ญาตินำศพ "เสี่ยเต้ย" อดีตสามี “เจ๊อ๋อ 90 ล้าน” ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านใน จ.อุดรธานี 5 วัน โดยไร้เงา "เจ๊อ๋อ" พี่ชายเผยน้องพูดเป็นลางก่อนตาย ขณะที่อดีตแม่ยาย บอกเสียใจมากเพราะเสี่ยเต้ยเป็นคนดี

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 20 พ.ย.63 จากกรณีการจากไปอย่างกะทันหันของ นายสมภาร สุรัญกุล อายุ 40 ปี หรือ เสี่ยเต้ย อดีตสามีเจ๊อ๋อ 90 ล้าน ได้เสียชีวิตช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ญาติเผยติดเชื้อในกระแสเลือด หลังป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีมานานหลายปี โดยมีเพื่อนๆ จำนวนมากเข้าไปโพสต์แสดงความเสียใจในเฟซบุ๊กของเสี่ยเต้ย ที่ไม่น่าด่วนจากไป ซึ่งญาติได้นำศพจากห้องเก็บรักษาศพ รพ.ศูนย์อุดรธานี ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ บ้านเลขที่ 111 ม.4 บ้านคำบอน ต.หนองแสง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของเสี่ยเต้ย

ต่อมาเวลา 13.30 น. ของวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่จัดงานศพ โดยญาติพี่น้องของเสี่ยเต้ย ได้กางเต็นท์บริเวณหน้าบ้าน โดยมีชาวบ้านและเพื่อนๆ มาช่วยงานศพ ร่วมแสดงความเสียใจ ทยอยนำพวงหรีดมาตั้งไว้บริเวณข้างโลงศพ และจะมีการสวดอภิธรรมวันแรกในช่วงค่ำของวันนี้ โดยมีกำหนดการฌาปนกิจศพที่วัดป่าเทพนิมิต หรือวัดป่าบ้านคำบอน ในวันพุธที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ส่วน นางวรรณลี ปัญญาใส หรือเจ๊อ๋อ 90 ล้านบาท อดีตภรรยา ไม่สามารถติดต่อได้

...

นายสนอง สุรัญกุล อายุ 50 ปี พี่ชายคนโตของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า เสี่ยเต้ยเป็นน้องชายคนสุดท้อง จากพี่น้องทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 2 หญิง 3 คน ก่อนที่น้องชายจะเสียชีวิต ป่วยเป็นไข้หวัด แต่รักษาหายแล้ว จากนั้นก็วิ่งออกกำลังกาย เนื่องจากน้องชายเป็นคนชอบวิ่งออกกำลังกาย กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา น้องชายบอกว่าเหนื่อยอ่อนเพลีย และนอนไม่ค่อยหลับ และขาทั้งสองข้างเริ่มบวม และมีอาการปวด จึงเอาขาไปแช่น้ำอุ่น และใช้ยาหม่องมานวดและทา จนทำให้ผิวหนังพุผองปวดแสบปวดร้อน มีอาการหายใจไม่อิ่ม ติดขัด จึงนำตัวส่ง รพ.หนองแสง ก่อนไปใช้สิทธิ์ประกันชีวิตรักษาต่อที่ รพ.เอกอุดร เวลา 03.00 น. ก่อนส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น

"ขณะนั้นยังพูดหยอกล้อตนและนางพยาบาลว่า “เดี๋ยวก็ตายแล้วล่ะ” ซึ่งไม่คิดว่าเป็นคำพูดของน้องชายที่เป็นลางบอกเหตุไม่ดี และย้อนไปเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนฝันเห็นพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว อยากกินต้มเปรตปลาไหล ทั้งที่ไม่เคยฝันเห็นพ่อเลย ตั้งแต่ท่านจากไปหลายปี และส่วนตัวคิดว่าฝันเป็นลางร้ายบอกเหตุล่วงหน้า ส่วนทรัพย์สินของน้องชาย เคยบอกให้ตนเป็นคนดูแลจัดการ ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่าทรัพย์สินของน้องชายมีอะไรบ้าง และจำนวนเท่าไร หลังจากฌาปนกิจศพน้องชายแล้ว ตนและญาติพี่น้องจึงจะตรวจสอบ และอยากให้น้องสะใภ้มาจุดธูปอโหสิกรรมต่อกัน จะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันในชาติหน้า ก็สุดแล้วแต่อดีตน้องสะใภ้" พี่ชายคนโตของเสี่ยเต้ย กล่าว

ขณะที่ นางสาวหัดตี โนริญญา อายุ 39 ปี เพื่อนสนิทของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า เสี่ยเต้ยเคยพูดความทุกข์ในใจ หลังจากมีข่าวออกมาว่า เลิกรากันกับอดีตภรรยา (เจ๊อ๋อ) และสุขภาพไม่ค่อยดี รวมทั้งห่วงลูกสาวบุญธรรมที่อยู่กับอดีตภรรยา (เจ๊อ๋อ) เพราะมีความผูกพันกัน ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ แต่ทำทีมีความสุข โดยไม่แสดงออกมามีความทุกข์ใจ แต่เพื่อนทุกคนก็รู้ว่าเสี่ยเต้ยมีความทุกข์ใจอย่างมาก ตนและเพื่อนๆ ก็ให้กำลังใจมาตลอด ไม่คิดว่าเข้าจะด่วนจากไปอย่างกะทันหัน เพราะไม่มีวี่แววเลยว่าจะล้มป่วยถึงกับเสียชีวิต หากเสี่ยเต้ยยังมีชีวิตอยู่ อยากจะบอกว่า ให้หยุดพักผ่อนบ้าง อย่ามัวแต่แคร์ความรู้สึกคนอื่น ให้รักตัวเองมากๆ รวมทั้งให้เวลากับญาติพี่น้องด้วย ซึ่งปกติเขาก็ทำอยู่แล้ว

...

ต่อมาเมื่อเวลา 15.17 น. นางละมัย ปราบมาลัย อายุ 60 ปี และนางหัส ปัญญาใส อายุ 86 ปี แม่และพี่สาวของเจ๊อ๋อ อดีตภรรยาเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับการจากไปของอดีตน้องเขยและลูกเขย และตกใจมาก หลังทราบข่าวจากน้องสาว (เจ๊อ๋อ) ไลน์มาบอกว่า เสี่ยเต้ยเสียชีวิตแล้ว และเห็นน้องสาวนั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้านคนเดียว จากนั้นก็ไม่รู้ว่าน้องสาวออกจากบ้านไปไหน โดยพวกตนรักเสี่ยเต้ยเหมือนน้องและลูกชายแท้ๆ เพราะหาคนดีอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว และดูแลพวกตนมาตลอด และทุกวันก็ยังทำเหมือนเดิม ส่วนสาเหตุการเลิกกันกับน้องและลูกสาวไม่ขอพูดถึง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา ก่อนเดินเข้าไปจุดธูปขเคารพศพ เพื่อขออโหสิกรรม.