สามีใหม่วัย 57 ปี ที่ถูกภรรยาแจ้งความ มีพฤติกรรมน่ากลัว เจาะฝาบ้านถ้ำมอง ลักกางเกงในลูกเลี้ยงวัย 16 ปี เอาไปทำมิดีมิร้าย ยืนยันไม่ได้ทำ ถูกใส่ร้าย ตัวเองมาอยู่ช่วยทำงาน 4 ปี ไม่เคยได้อะไรตอบแทน ถ้าจะให้ไป ต้องเอาเงินมา 5 หมื่น พร้อม จยย. รถอีแต๋น
จากกรณีหญิงวัย 50 ปี อ.สตึก จ.บุรีรีมย์ แจ้งจับสามี ที่อยู่กินกันมา 4 ปี พฤติกรรมชอบขโมยกางเกงในลูกเลี้ยง และกางเกงในชาวบ้าน เจ้าตัวปฏิเสธลั่นไม่ได้ทำ และจะอยู่กับภรรยาไม่ไปไหน ถ้าจะไปต้องมีเงิน 50,000 บาท พร้อมรถอีแต๋น รถจยย. เครื่องมือช่าง
ล่าสุด วันที่ 10 พ.ย.63 กรณีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ของนางสังคาร ยิงรัมย์ อายุ 50 ปี อยู่เลขที่ 14 หมู่ 3 ต.สะแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกนายไพรี บรรลือทรัพย์ อายุ 57 ปี สามีของตัวเอง ที่ภรรยาระบุว่า มีพฤติกรรมโรคจิต เจาะฝาบ้านหลายจุด โดยเฉพาะห้องนอนของลูกสาว เพื่อถ้ำมอง ไม่เว้นห้องนอนของตัวเอง เชื่อว่าน่าจะเจาะเพื่อแอบดูตอนลูกสาวขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า ทั้งยังขโมยกางเกงในของลูกสาววัย 16 ปี ไปทำต่างๆ นานา หลังพบหลักฐานกางเกงในลูกสาวไปอยู่ในรถและกระเป๋าของสามี จนสร้างความหวาดกลัวให้ลูกสาวและตัวเอง เพราะอยู่บ้านหลังเดียวกัน
นางสังคาร กล่าวอีกว่า นายไพรี ได้มาอยู่กินกันฉันสามีภรรยานาน 4 ปี โดยต่างคนต่างมีครอบครัวกันมาก่อน แต่นายไพรีเป็นคนนิสัยอารมณ์ฉุนเฉียวโมโหร้าย ทั้งกับตนและลูกสาว เคยข่มขู่จะใช้ปืนยิงตนให้ตาย จึงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับติดคุก 4 เดือน เมื่อออกจากคุกตนคิดว่าสามีจะกลับใจเป็นคนดี กลับมีพฤติกรรมแปลกๆ ชอบขโมย กางเกงในลูกสาว ไปทำสิ่งไม่ดี ครั้งสุดท้ายใช้เชือกล่ามวัวรัดคอตนเกือบเอาชีวิตไม่รอด จนต้องไปแจ้งความที่ สภ.สตึก
...
นางสังคารเล่าต่อว่า ตนต้องการแยกทางกับสามี แต่สามีต้องการเงิน 5 หมื่นบาท พร้อมรถอีแต๋น จักรยานยนต์ กลับไปด้วย แต่ตนมีฐานะยากจนไม่มีเงินติดตัว ส่วนวัวที่เลี้ยงก็เป็นมรดกของตนไม่อยากจะขายเอาเงินให้สามีเพราะต้องเลี้ยงดูลูกสาว ทุกวันนี้กินข้าวกับแตงโม นอนห้องเดียวกับสามีแต่ไม่คุยกัน ต่างคนต่างกิน วิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาของครอบครัว ที่นับวันจะเป็นอันตราย เพราะตอนนี้ยังไม่มีทางออก
ทางด้าน นายไพรี ผู้ถูกกล่าวหา กล่าวยืนยันจะไม่หนีไปไหน แต่ถ้าจะให้ไป นางสังคารต้องจ่ายเงินให้ตนจำนวน 50,000 บาท พร้อมรถอีแต๋น รถจักรยานยนต์ และเครื่องมือช่างที่เป็นทรัพย์สินของตนนำมาจากจังหวัดสุรินทร์ ตนช่วยทำงานมานานกว่า 4 ปี ไม่เคยได้อะไร ดังนั้น หากไม่จ่ายก็จะไม่ยอมออกจากบ้าน
ขณะที่นางจันทร์เพ็ญ คดีเวียง อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านพลับ หมู่ 3 ตำบลสะแก อ.สตึก กล่าวว่า ที่ผ่านมาฝ่ายภรรยาเคยมาแจ้งว่าสามีขโมยกางเกงในมาแล้ว 2 ครั้ง ตอนแรกขโมยลูกที่อยู่ด้วยกัน ครั้งที่ 2 ขโมยกางเกงในลูกสาวอีกคนที่มาเยี่ยมบ้านแม่ ฝ่ายภรรยาพยายามให้ตนเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อจะเลิกรากันไป แต่ก็ไม่เป็นผล เคยแนะนำให้ลูกสาวไปอยู่บ้านญาติ แต่ทำได้ไม่นานลูกสาวจำเป็นต้องกลับมาหาแม่ เพราะเป็นห่วงแม่เช่นเดียวกัน ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วง เพราะฝ่ายสามีเคยถูกจับกุมอาวุธปืนมาแล้ว จำคุก 4 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์บุรีรัมย์ ทราบเรื่องแล้ว เตรียมเข้าไปคุ้มครองเด็ก ส่วนกรณีที่นายไพรี ไม่ยอมออกจากบ้าน จะต้องประสานฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อหาแนวทางต่อไป โดยจะต้องเร่งดำเนินการเป็นการเร่งด่วน เพราะเด็กผู้หญิงอยู่ในภาวะอันตราย