มือฉกกางเกงในลูกเลี้ยงที่บุรีรัมย์ ยังไม่หนีไปไหน โต้เมียไม่ได้กระทำอย่างที่กล่าวหาทำให้ได้รับความเสียหาย ยื่นคำขาดถ้าจะเลิกขอ 5 หมื่นบาท พร้อมรถอีแต๋น ขณะเมียผวาซ้ำ เกรงได้รับอันตราย
กรณี เมียวัย 50 ปี แจ้งความตำรวจ สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จับผัววัย 57 ปี หลังจากใช้เชือกรัดคอตัวเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด พร้อมเผยพฤติกรรมโรคจิตของสามี ขโมยกางเกงใน น้ำหอม ของลูกสาววัย 16 ไม่เว้นกางเกงในเมียตัวเอง แฉอีกฝาบ้านห้องลูกสาว-เมียโดนเจาะพรุน
เมื่อวันที่ 9 พ.ย.63 นายไพรี อายุ 57 ปี ที่ถูกนางสังคาร อายุ 50 ปี ภรรยาของตัวเอง แจ้งความต่อ ร.ต.อ.การุณ จันดอก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สตึก อ.สตึก ให้เอาผิดสามีของตัวเอง ฐานทำร้ายร่างกาย ที่เอาเชือกไปรัดคอจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
พร้อมเผยพฤติกรรมของสามี ว่าเป็นคนโรคจิต พยายามเจาะฝาบ้านหลายจุด โดยเฉพาะห้องนอนของลูกสาว ไม่เว้นห้องนอนของตัวเอง เชื่อว่าน่าจะเจาะเพื่อแอบดูตอนลูกสาวกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ที่งงคือห้องนอนของตัวเองยังแอบเจาะฝาบ้าน เหมือนจะแอบดูตอนภรรยาแต่งตัว ทั้งยังขโมยกางเกงในของลูกสาววัย 16 ปีไปทำมิดีมิร้ายต่างๆ นานา หลังพบหลักฐานกางเกงในลูกสาวไปอยู่ในรถและกระเป๋าของสามี จนสร้างความหวาดกลัวให้กับลูกสาวและตัวเอง เพราะอยู่บ้านหลังเดียวกัน
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่บ้านพบว่า นายไพรี ยังไม่หนีไปไหน เช้าวันนี้ยังเอาวัวเลี้ยงตามปกติ พร้อมกับปฏิเสธว่า ไม่เคยขโมยกางเกงในใคร ไม่เคยเจาะฝาบ้าน และไม่ได้ทำร้ายภรรยา วันเกิดเหตุได้แย่งวัวกันแล้วเชือกไปพันคอเอง จากที่เป็นข่าวไปตนมีความรู้สึกว่าได้รับความเสียหาย
นายไพรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 4 ปี ตนทำงานมาโดยตลอด ทั้งทำนา เลี้ยงวัว ภรรยาเคยไล่ตนออกจากบ้านแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ยอมให้เงินตนก็ไปไม่ได้ มาถึงตอนนี้แล้วจะต้องพูดคุยกันเรื่อง “ค่าเสียหาย” หากต้องการให้ตนออกจากบ้าน จะต้องจ่ายเงินให้จำนวน 50,000 บาท เพราะทำงานมาโดยตลอด ไม่เคยได้ค่าแรง พร้อมจะเอารถอีแต๋นของตัวเองกลับไปด้วย การกล่าวหาดังกล่าวของภรรยา เป็นการพูดข้างเดียว
...
ด้าน นางสังคาร ภรรยานายไพรี กล่าวว่า ยืนยันเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ไม่มีความจำเป็นที่จะโกหก ถ้าสามีมาเรียกค่าเสียหาย ตนไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้งไม่มีเงิน และกลัวว่าสามีจะมาทำร้าย จึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน.