สายลมหนาวมาพร้อมนักท่องเที่ยว ที่บึงกาฬ ชายแดน สปป.ลาว อากาศเย็น ลมแรง หนุ่มสาวพากันปีนขึ้นไปชมวิวบนหินสามวาฬ อันซีนไทยแลนด์แห่งป่าภูสิงห์ บรรยากาศสุดฟิน ส่วนสะพานเก่าแก่กลางทุ่งนา อ.ครบุรี โคราช ตอนนี้ข้าวกำลังออกรวง สุดสวย
วันที่ 8 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.บึงกาฬ สภาพอากาศเย็น และมีลมพัดแรง โดยเช้าวันนี้ซึ่งเป็นวันหยุด มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งคู่หนุ่มสาว ครอบครัวพ่อแม่ลูก ไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นและสูดอากาศธรรมชาติยามเช้า บนหลังหินสามวาฬ จุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่น อยู่ด้านตะวันออกภายในศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนที่ 154 ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู บ้านโนนทรายทอง หมู่ 8 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ หรือที่รู้จักกันว่า “ภูสิงห์” ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนชื่อดังของ จ.บึงกาฬ
โดยเช้าวันนี้ อุณหภูมิที่ยอดภูสิงห์อยู่ที่ 19 องศา ประกอบกับมีลมหนาวพัดมา จากฝั่ง สปป.ลาว โดยนักท่องเที่ยวสามารถยืนชมทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก แม่น้ำโขง และภูเขาเมืองปากกระดิ่ง สปป.ลาว นักท่องเที่ยวจะได้ชมความงดงามของธรรมชาติ ป่าไม้ ภูเขา ผ่านทิวทัศน์สองฝั่งโขงที่สวยงามของ จ.บึงกาฬ ซึ่งตั้งอยู่เหนือสุดของแดนอีสานของประเทศไทย นักท่องเที่ยวหลายคนไม่พลาดที่จะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายเซลฟี่กับพระอาทิตย์ และถ่ายภาพครอบครัวและบรรยากาศอันแสนอบอุ่น บนหินสามวาฬ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย
...
ขณะที่ กรมอุตุพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทางตอนใต้ของประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเกิดขึ้น กับมีอากาศเย็น ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนา
ส่วนที่ จ.นครราชสีมา อุณหภูมิที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ส่งผลทำให้สภาพอากาศในพื้นที่ของ อ.ครบุรี เริ่มหนาวเย็นลงอย่างกะทันหัน สร้างสีสันและบรรยากาศที่สวยงามให้แก่บริเวณสะพานไม้ร้อยปี แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อที่บ้านโคกกระชาย ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี ซึ่งเป็นสะพานไม้เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี พาดผ่านทุ่งนาข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวงระยะทางยาวเกือบ 1 กม. ในช่วงเช้ากำลังเต็มไปด้วยหมอกจางๆ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ สร้างความสวยงามและเพิ่มเติมบรรยากาศให้น่าท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
สำหรับสะพานไม้แห่งนี้ ถูกสร้างมานานกว่า 100 ปี โดยไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าถูกสร้างขึ้นมาเมื่อใด แต่เป็นสะพานไม้ที่กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ได้ช่วยกันสร้างขึ้น ทอดผ่านทุ่งนาข้าวและใช้เป็นเส้นทางในการลำเลียงขนส่งสินค้า และเป็นเส้นทางสัญจรของชาวบ้าน มีการซ่อมแซมมาแล้วหลายครั้ง
ปัจจุบันสภาพของสะพานไม้ในส่วนตอม่อจะถูกแทนที่ด้วยต่อม่อปูนแทนตอไม้ เนื่องจากสะพานแห่งนี้ถูกสร้างมานาน และมีการพุพังไปตามกาลเวลา แต่ส่วนด้านบนยังคงสภาพเป็นกระดานไม้ให้ชาวบ้านได้สัญจรไปมาเช่นในอดีต ซึ่งชาวบ้านปัจจุบัน ยังคงช่วยกันดูแลรักษาให้คงสภาพเช่นเดิมไว้ เพื่อให้ลูกหลานในอนาคตได้เห็น และรำลึกถึงความรักความสามัคคีของบรรพชน และวิถีชีวิตในสมัยอดีต สืบไป
...