ตะขาบกัด อย่าไว้วางใจต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในช่วงหน้าฝน หากโดนกัดอาจเป็นอันตรายถึงตายได้ จากกรณีมีโรคแทรกซ้อน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือคนมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ภูมิต้านทานไม่ดี อย่างล่าสุดเป็นการสูญเสียคนในวงการหมัดมวย เมื่อดอกไม้ป่า ป.พงษ์สว่าง อดีตนักมวยดัง ถูกตะขาบกัดปล่อยทิ้งไว้หลายวัน จนติดเชื้อในกระแสเลือด อาการโคม่าและเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค.
ก่อนการเสียชีวิต ทางลูกสาวบอกว่า "ดอกไม้ป่า ป.พงษ์สว่าง" ถูกแมลงไม่ทราบชนิดคาดว่าตะขาบกัดบริเวณต้นขาซ้าย ปล่อยไว้หลายวัน จนมีอาการไข้หนาวสั่น เวียนหัว มีอาการโคม่าตลอดทั้งคืน กระทั่งเข้ารักษาในโรงพยาบาล และเสียชีวิตในที่สุด จากการติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากมีโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน และโรคตับ
“ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” สอบถามไปยัง ผศ.นพ.สุชัย สุเทพารักษ์ สาขาวิชาพิษวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยระบุ "ดอกไม้ป่า ป.พงษ์สว่าง" เสียชีวิตจากพิษตะขาบที่กัดไม่น่าจะจริง เพราะโดยปกติพิษของตะขาบจะไม่รุนแรงเหมือนพิษของงู จนทำให้คนเสียชีวิต หรือเสียชีวิตน้อยมาก ซึ่งที่ผ่านมาในประเทศไทยยังไม่มีสถิติคนเสียชีวิตจากพิษตะขาบแต่อย่างใด
...
"ยกเว้นคนคนนั้นมีอาการแพ้พิษ ยกตัวอย่างโดนผึ้งต่อยแล้วมีอาการแพ้ เหมือนการแพ้ยา หรือโดนตะขาบกัด หากแพ้พิษ จะเสียชีวิตในเวลาค่อนข้างเร็ว และอาการแพ้จะต้องมีผื่นทั้งตัว ไม่ใช่เฉพาะบริเวณที่ถูกกัดเท่านั้น"
ในกรณีการเสียชีวิตของอดีตนักมวยดัง อาจมีสาเหตุอื่น เนื่องจากมีประวัติเป็นโรคเบาหวานและโรคตับ ซึ่งใครก็ตามหากมีภูมิต้านทานในร่างกายไม่ดี หากเป็นแผลไม่ว่าจากสาเหตุใด มีอาการไข้ขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะคนเป็นโรคตับ หรือที่เรียกว่าตับแข็ง มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดได้ง่าย และปกติคนทั่วไปหากโดนตะขาบกัด มีอาการปวดมาก ควรต้องไปพบแพทย์ โดยแพทย์จะให้ยาแก้ปวด หากคนไข้ไม่ไหวก็ใช้ยาฉีด รักษาอาการปวด
“สรุปแล้วหากภูมิต้านทานในร่างกายไม่ดี เมื่อเป็นแผลไม่ว่าจะกรณีใด หรือถูกตะขาบกัด อย่าปล่อยไว้จนลุกลาม จะต้องไปหาหมอ ป้องกันการติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะหากมีแผลบริเวณจุดสำคัญที่เชื้อโรคเข้าไปได้ง่าย ยิ่งมีความเสี่ยงสูงที่เชื้อโรคจะเข้าไปอย่างรวดเร็ว จนเสียชีวิตในที่สุด”