ทนายความ ยื่นศาลขออนุญาต "กักขัง" หมอเปรม ตามคำพิพากษาศาลฎีกาในคลินิกที่กทม.เพื่อสามารถทำงานได้ แต่ศาลยกคำร้อง จึงยื่นคำขออุทธรณ์ แต่พิจารณาไม่ทัน เพราะศาลปิดทำการ ต้องส่งไปกักขังที่เรือนจำจังหวัดพล
จากกรณีที่ศาลจังหวัดพล นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ระหว่างฝ่ายโจทก์ คือพนักงานอัยการ นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในฐานะโจทก์ร่วม กับ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จำเลยที่ 1 พร้อมพวก ในข้อหาข่มขืนใจ บังคับขู่เข็ญ และกระทำอนาจาร
โดยศาลฎีกาได้เปลี่ยนคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จากจำคุกจำเลยทั้ง 2 คนละ 2 เดือน เป็นกักขังคนละ 2 เดือน ซึ่งศาลมีดุลยพินิจว่าจำเลยสำนึกผิด โดยได้นำเงิน 100,000 บาทมาวางต่อหน้าศาลเพื่อเยียวยาผู้เสียหาย อีกทั้งจำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อนนั้น
ล่าสุด เวลา 14.00 น. ที่ศาลจังหวัดพล อ.พล จ.ขอนแก่น นายเธียรชัย นนยะโส ทนายความของ นพ.เปรมศักดิ์ และ ร.ต.บัวทอง ได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อร้องขอสถานที่กักขัง ของผู้ต้องกักขังทั้ง 2 คน โดยคำร้องได้ยื่นขอกักขังในสถานที่ทำงานของ นพ.เปรมศักดิ์ คือคลินิกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพื่อใช้ประกอบวิชาชีพ แต่ศาลได้ยกคำร้อง เนื่องจากไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องกักขังในพื้นที่ดังกล่าว
ต่อมา นายเธียรชัย นนยะโส ทนายความของหมอเปรม ได้ยื่นขออุทธรณ์อีกครั้ง เพื่อให้ศาลพิจารณาใหม่อีกครั้ง แต่เนื่องจากหมดเวลาการทำงานของศาล จึงไม่สามารถพิจารณาคำอุทธรณ์ของจำเลยได้ทัน ศาลจึงส่งตัวหมอเปรมเข้าไปทำการกักขังตัวที่เรือนจำกลางจังหวัดพลไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะหาสถานที่กักขังนพ.เปรมศักดิ์ พร้อมพวกได้อย่างเป็นทางการต่อไป