รถกระบะชน จยย.พ่วงข้าง 2 ลุงป้าพี่น้องที่มาด้วยกัน บนถนนสายร้อยเอ็ด-โพนทอง บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านมะอึ จ.ร้อยเอ็ด จนร่างกระเด็นตายคาที่ทั้งคู่ ด้าน ตร.ธวัชบุรีเร่งสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


เมื่อเวลา 14.50 น. ของวันที่ 31 ส.ค.63 ร.ต.อ.วัฒนา วงค์อินตา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ธวัชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง บนถนนสายร้อยเอ็ด-โพนทอง บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านมะอึ ตำบลมะอึ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ จึงออกตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครกู้ภัยอโศกธวัชบุรี กู้ชีพโรงพยาบาลธวัชบุรี

ถึงจุดเกิดเหตุเป็นถนนสี่ช่องจราจร ไม่มีเกาะกลางถนน ฝั่งขาออกอำเภอเมืองร้อยเอ็ด พบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีเทา จอดอยู่ริมทาง ทะเบียน บพ 697 ร้อยเอ็ด สภาพด้านหน้ารถบริเวณไฟหน้าและฝากระโปรงด้านซ้ายยุบพังเสียหาย ยางหน้าซ้ายแตก ทราบชื่อคนขับคือ นายพงษ์ศิริ จรัญพงษ์ อายุ 28 ปี ชาวบ้าน ม.10 ต.โพธิ์ทอง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ภายในมีผู้โดยสารอีก 4 คน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ห่างกันประมาณ 10 เมตร พบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง แบบฮอนด้าเวฟ พ่วงข้าง ทะเบียน พจล 321 กทม. พลิกตะแคงข้างอยู่ข้างถนน

...

ถัดจากรถซาเล้งมาประมาณ 10 เมตร พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย (ศพอยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร) ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นางคำก้อน อรัญทิศ อายุ 65 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 7 ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด สภาพศพศีรษะเป็นแผลเปิดลึกถึงสมอง เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ และนายโฮม อรัญทิศ อายุ 60 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 7 ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด สภาพศพมีศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ อาสาสมัครกู้ภัยอโศกนำร่างผู้เสียชีวิตชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลธวัชบุรี ก่อนนำร่างมอบให้ญาติดำเนินการตามพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

นายกมล พิศพาน อาสาสมัครกู้ภัยทางหลวงร้อยเอ็ด กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนซาเล้งบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านมะอึ จึงรีบออกมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุก็พบผู้บาดเจ็บนอนแน่นิ่ง หายใจรวยรินอยู่ริมถนน จึงประสานรถกู้ชีพโรงพยาบธวัชบุรีออกรับ แต่ผู้บาดเจ็บอาการสาหัสมากจึงเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ

ด้าน นายสุทัศน์ เลิศลำหวาน อายุ 37 ปี พยานผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ระหว่างนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่ปั๊มน้ำมันติดถนน ฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ จู่ๆ ได้มีรถกระบะเสียหลักชนท้ายรถพ่วงซาเล้งที่จอดอยู่ไหล่ทางรอข้ามถนนเพื่อไปรับหลานที่โรงเรียนบ้านมะอึ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส นอนแน่นิ่งจมกองเลือดริมถนน 2 ราย ตนจึงรีบประสานเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือในเวลาต่อมา

ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวอ้างว่า ก่อนหน้านี้คืนก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงหมาหอนอย่างผิดปกตินานต่อกันถึง 2 วัน โดยชาวบ้านละแวกนี้ก็มีความเชื่อเกี่ยวกับตัวตายตัวแทน เนื่องจากจุดเกิดเหตุมีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และทุกครั้งจะมีผู้เสียชีวิต จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขเพื่อลดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตบนท้องถนน

ส่วน นางอนงค์ โปร่งมณี อายุ 63 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายทั้งสองซึ่งเป็นพี่น้องกัน ได้ขับขี่จักรยานยนต์ซาเล้งออกไปรับหลานที่โรงเรียนบ้านมะอึ ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งโดยปกติน้องชายและพี่สาวคนโตจะเป็นคนออกไปรับหลาน แต่วันนี้นางโฮม (ผู้ตาย) ได้ขอตัวออกไปรับหลานกับน้องชาย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยไปมาก่อน ทั้งสองคนไม่มีลูก มีแต่พี่น้องที่อยู่ดูแลกัน ก็รักหลานคนนี้มาก จึงต้องไปรับทุกวัน เพราะกลัวหลานจะเกิดอุบัติเหตุในการเดินทางไปโรงเรียน

...

น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวอีกว่า ส่วนในรูปคดี ตนอยากให้เจ้าหน้าตำรวจได้ตรวจสอบสาเหตุอย่างแน่ชัดถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากครอบครัวของตนต้องสูญเสียพี่น้องจำนวน 2 คนด้วยกัน ซึ่งถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขปัญหาด้านการจราจรซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง จึงไม่อยากให้เกิดการสูญเสียเหมือนครอบครัวของตนอีก

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานและสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ก่อนจะนำตัวคนขับรถกระบะไปตรวจวัดปริมาณแอลกฮอล์ในร่างกาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.