เตรียมแจ้ง 2 ข้อหา "เสี่ยเก่ง" เจ้าของเบนซ์ดำหัวร้อน ตบตาขับกระบะ คาร้านต่อ พ.ร.บ.ที่ขอนแก่น ขณะนี้อยู่ระหว่างเดินเข้าพบพนักงานสอบสวน เจ้าตัวยอมรับ ทำจริง-แต่ไม่ได้รุนแรง อ้างอารมณ์ฉุนเฉียว-จนพลั้งมือ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 ก.ค.63 ที่ สภ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.บรเมศร์ สายคำทอน ผกก.สภ.หนองสองห้อง ประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและชุดป้องกันปราบปราม หลังจากที่มีการประสานงานกับ นายพรศักดิ์ พันธ์ชัย หรือนายเก่ง อายุ 46 ปี คนขับรถเบนซ์ สีดำ ทะเบียน 8 กข 1724 กรุงเทพมหานคร ซึ่งทำร้าย นายมนตรี สาคุณ อายุ 69 ปี เมื่อเช้าวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ภายในร้านรับทำ พ.ร.บ.ในอำเภอหนองสองห้อง หลังก่อเหตุนายเก่งได้ขับรถออกไปทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่หาเบาะแส จนทราบว่านายเก่งมาอยู่ที่บ้านมารดา ที่บ้านหนองทุ่ม ต.ดอนดัง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น โดยเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พบเพียงมารดานายเก่งอยู่บ้านคนเดียว ส่วนนายเก่งขับรถเบนซ์ไปเยี่ยมพี่ชายที่ จ.เชียงใหม่ และทราบเรื่องแล้ว อยู่ระหว่างการเดินทางจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อมาเข้าพบพนักงานสอบสวน และรับทราบข้อกล่าวหา 

โดย พ.ต.อ.บรเมศร์ สายคำทอน ผกก.สภ.หนองสองห้อง เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าผู้เสียหายจะไม่มีบาดแผล แต่เป็นผู้สูงอายุ ที่ถูกกระทำจากชายฉกรรจ์ จึงเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ แต่ก็ถือว่าเป็นการดีที่เมื่อประสานงานกับนายเก่งแล้ว ได้รับคำตอบว่า ทราบข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่จากสื่อมวลชน และยินดีที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ (21 ก.ค.) ซึ่งน่าจะถึงที่ สภ.หนองสองห้อง ในช่วงเย็น ซึ่งเมื่อนายเก่งมาถึงที่ สภ.หนองสองห้อง ทางพนักงานสอบสวนก็จะสอบปากคำและแจ้งข้อหาให้ทราบ ซึ่งตามที่ผู้เสียหายแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี กับผู้ที่ทำร้ายร่างกายนั้น มี 2 ข้อหา คือ ข้อหาตามมาตรา 295 "ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย" และข้อหาตามมาตรา 309 "ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น" ซึ่งเมื่อแจ้งข้อหาแล้วอยู่ที่ผู้ถูกกล่าวหาจะปฏิเสธหรือรับสารภาพ เพราะเป็นสิทธิ์ที่จะกระทำได้ รวมถึงการที่จะให้การในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่ให้นั้นก็ได้ และพนักงานสอบสวนก็ไม่มีสิทธิ์จับกุมหรือควบคุมตัว เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ก่อเหตุเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง เมื่อพนักงานสอบสวนดำเนินการครบถ้วนสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ก็จะปล่อยตัวไป จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะทำสำนวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ส่งศาล เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป 

...

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามนายเก่งผ่านทางโทรศัพท์ เบื้องต้น นายเก่ง ยอมรับว่าก่อเหตุจริง แต่ไม่ได้ทำร้ายรุนแรง เพราะช่วงดังกล่าวเป็นช่วงอารมณ์ฉุนเฉียว จึงพลั้งมือไป เมื่อทราบเรื่องตามข่าวสารของสื่อมวลชน ก็เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.หนองสองห้อง เพื่อดำเนินการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะไม่อยากตกเป็นจำเลยของสังคม.