หนุ่มใหญ่วัย 58 ขี่ จยย.ข้ามเกาะกลางถนนอุดรธานี-สกลนคร ฝั่งขาเข้าเมือง แล้วโดนกระบะพุ่งชนกระเด็นคอหักตายคาที่ ด้านพ่อและแม่วัย 82 รุดดูศพลูกชาย โดยแม่ถึงกับเป็นลมหลายรอบ ร่ำไห้เสียใจลูกตาย
เมื่อวันที่ 17 ก.ค 63 ร.ต.อ.ทิฐินันท์ ศรีเชียงหวาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งมีเหตุกระบะชนจักรยานยนต์ บริเวณบ้านหนองขาม ถนนอุดรธานี-สกลนคร (ขาเข้าเมืองอุดรธานี) เทศบาลตำบลหนองบัว จึงพร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี มูลนิธิสว่างเมธาธรรมรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ ศพนายวิทยา อินทะสร้อย อายุ 57 ปี ชาวบ้านกู่แก้ว อ.กู่แก้ว จ.อุดรานี นอนหงายเสียชีวิตยู่ริมถนน สภาพศพสวมเสื้อสีขาว กางเกงยีนส์ ห่างไปเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีขาวดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพถูกชนพังยับเยิน นอกจากนี้ยังพบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ผน 6365 อุดรธานี จอดขวางถนน ด้านหน้าซ้ายมีร่องรอยเฉี่ยวชน จากการชันสูตรพบคอหัก ขาหักทั้งสองข้าง
สอบสวนนายภาณุวัฒน์ ปัตถาวะโร อายุ 25 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 ซอยบ้านดงวัด ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี คนขับรถกระบะให้การว่า ตนทำงานที่ห้องเย็นติดใกล้สี่แยกบิ๊กซีสาขาอุดรธานี หลังเลิกงานตนได้ขี่รถกลับบ้านมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ออกจากซอยเสนีย์พิทักษ์ชน 1 พุ่งตรงไปเกาะกลาง เพื่อขี่ขึ้นเกาะกลางข้ามไปฝั่งตรงกันข้าม ทำให้รถตนซึ่งขับมาด้วยความเร็วพุ่งชนอย่างจังจนเสียชีวิต

...
ขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจที่เกิดเหตุ และสอบสวนสาเหตุอยู่นั้น ได้มีนายพรหม อินทะสร้อย อายุ 82 ปี และนางจันทร์เพ็ญ อินทะสร้อย อายุ 82 ปี พ่อและแม่ผู้ตายเดินทางมาดูศพลูก พอเห็นศพนายวิทยา นางจันทร์เพ็ญถึงกับปล่อยโฮ ก่อนเป็นลมล้มพับอีกหลายตลบ จนอาสากู้ภัยและชาวบ้านช่วยกันปฐมพยาบาล แต่เนื่องจากเป็นลมหลายรอบ จึงนำส่งโรงพยาบาล
เบื้องต้น นายพรหม บิดาผู้ตาย ให้การว่า ตนมีลูก 5 คน ผู้ตายเป็นคนที่ 3 เป็นโสด มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ชอบดื่มเหล้า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายมาขอเงิน 200 บาทบอกว่าจะไปงานศพ ตนให้ไป 500 บาท แล้วสั่งให้นำเงินมาทอนให้ด้วย หลังจากนั้นก็ไม่พบผู้ตายอีก กระทั่งมีญาติโทรศัพท์ไปบอกว่าลูกถูกรถชนตาย

ด้าน น.ส. สุภาวีย์ บุญมี อายุ 42 ปี ชาวบ้านอาศัยอยู่ในละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า จุดที่เกิดเหตุมักจะมีชาวบ้านขี่รถจักรยานยนต์ข้ามเกาะกลางเป็นประจำ เพราะไม่ยอมไปกลับรถบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานลอย ทำให้เกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ มีทั้งเจ็บสาหัสและตาย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผงเหล็กมาปิดกั้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ส่วน ร.ต.อ.ทิฐินันท์ ศรีเชียงหวาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่า การขี่รถข้ามเกาะกลาง โดยไม่ยอมไปจุดกลับรถถือว่าผิดกฎจราจร จะได้สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และตรวจกล้องวงจรปิด เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.