พี่ชาย "ปูนิ่ม" บอกส่วนตัวอโหสิกรรมให้ "ผู้กองบอย" หลังสารภาพยิงน้องสาว ไม่อยากให้มีเวรกรรมกับน้อง ไม่ติดหากจะมาขอขมาศพ ส่วนตัวยังไม่เชื่อทำปืนลั่น
จากกรณี พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว คุมตัว ร.ต.อ.ทรงกรด บุญส่ง รอง สว.สส. สน.วังทองหลาง หรือ ผู้กองบอย ที่ก่อเหตุใช้ปืน .45 ยิง น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ หรือ ปูนิ่ม ภรรยาวัย 30 ปี เสียชีวิตภายในบ้านย่านแขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ไปฝากขังที่ศาลอาญา ซึ่งต่อมา ศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว ร.ต.อ.ทรงกรด ตีหลักทรัพย์ 5 แสนบาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไข ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 23 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศภายในงานศพของ น.ส.พิมชฎาพร ซึ่งญาติได้นำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาตั้งศพบำเพ็ญกุศลทำพิธีทางศาสนา ที่บ้านเกิด จ.กาฬสินธุ์ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา มีพิธีสวดอภิธรรมคืนแรก และจะได้มีกำหนดการฌาปนกิจศพ ในวันที่ 25 พฤษภาคม นี้ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ขณะที่ นางทองใส ภูคงน้ำ อายุ 56 ปี แม่ของ น.ส.พิมชฎาพร และญาติๆ ส่วนใหญ่ เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปทำธุระ มีเพียง นายกชกิตต์พัฒน์ ภูแย้มไสย์ อายุ 33 ปี พี่ชายของผู้ตายและเพื่อนบ้าน ที่กำลังช่วยกันจัดเตรียมข้าวของ และเตรียมประกอบอาหารเลี้ยงแขกที่จะมาร่วมงานสวดอภิธรรมคืนที่ 2 ในช่วงเย็นวันนี้
...
นายกชกิตต์พัฒน์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับการประสานจาก ร.ต.อ.ทรงกรด สามีน้องสาว หรือญาติ ว่าจะมาร่วมงานศพ หรือมาขอขมาหรือไม่ แต่หาก ร.ต.อ.ทรงกรด และญาติจะมา ตนก็ยินดี ไม่มีปัญหาอะไร เพราะส่วนตัวตนอโหสิกรรมให้ เพราะอยากให้น้องสาวจากไปโดยไม่มีเรื่องต้องห่วง และจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันอีก ส่วนแม่หรือญาติคนอื่น ตนไม่รู้ว่าคิดอย่างไร
นายกชกิตต์พัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ครอบครัวก็รู้สึกโล่งใจ ผ่อนคลาย และเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว ที่ทาง ร.ต.อ.ทรงกรด ผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพ ซึ่งในส่วนของคดี ต้องปล่อยให้เป็นไปตามหน้าที่ของตำรวจ และเป็นไปตามกฎหมาย แต่อยากให้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และได้รับโทษสูงสุด ไม่ใช้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น ซึ่งโทษจะต่างกัน เพราะส่วนตัวไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุจนปืนลั่น แต่อาจจะเกิดจากการจงใจ เอาปืนมาเล็งที่หัว จนปืนยิงออกไปถูกศีรษะน้องสาวจนเสียชีวิต.