คนอุดรธานี แฉประวัติพระเดือนชัย พ่อแม่พาอพยพจากกาฬสินธุ์ อยู่บ้านเหล่าหลวงใต้ ห่างเกาะคำชะโนดไม่มากนัก เผยชอบใบ้หวย บวชแล้วสึกมา 8 ครั้ง ไม่มีใครไปสุงสิง พบสร้างที่พำนักใหม่ในสวนยาง ยุงชุมมาก ไม่รู้จะอยู่ได้หรือไม่ 

วันที่ 18 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจาก คณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร (ธรรมยุต) มีคำสั่ง ให้พระเดือนชัย ธมมวิจโย หรือหลวงปู่เดือนชัย สังกัดวัดป่าศรัทธาธรรม (ถ้ำหีบ) ต.คำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร พำนักอยู่ที่พักสงฆ์ถ้ำจารย์ครูภูหินด่าง อ.หนองสูงใต้ อ.หนองสูง ออกจากพื้นที่ จ.มุกดาหาร ทันที เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมแก่สมณเพศ แสดงตนสื่อทางวิญญาณ โฆษณาตนเองผ่านสื่อต่างๆ ผิดธรรมวินัย และกฎระเบียบคำสั่งของมหาเถรสมาคม เจ้าคณะในท้องที่ได้เตือนแล้วแต่ไม่เป็นผล

โดยหลวงปู่เดือนชัยเริ่มเป็นที่รู้จักของชาวบ้าน หลังจากแสดงตัวออกมาช่วยเหลือคดี  "น้องชมพู่" เสียชีวิต และในครั้งนั้นหลวงปู่เดือนชัยได้เขียนเลขปริศนาธรรมเหมือนใบ้หวย มีผู้นำไปตีเป็นเลขเด็ด ถูกหวยกันเป็นจำนวนมาก

...

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บ้านเหล่าหลวง ต.วังทอง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นภูมิลำเนา บ้านโยมพ่อและโยมแม่ของหลวงปู่เดือนชัย หลังจากมีข่าวหลวงปู่เดือนชัยอาจจะกลับมาอยู่สำนักสงฆ์ของตนเองที่กำลังสร้าง ปรากฏว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ทราบข่าวเรื่องของหลวงปู่เดือนชัยแล้ว โดยชาวบ้านเหล่าหลวงบอกว่า ไม่ได้สุงสิงกับพระรูปนี้ เพราะปกติหลวงปู่มาก็จะมาอยู่สำนักสงฆ์ของตนเอง แต่ไม่ออกบิณฑบาต และไม่มีชาวบ้านไปถวายอาหาร

ชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า หลวงปู่เดือนชัยเป็นคนที่บ้านเหล่าหลวงแห่งนี้ มีน้องชายและ แม่ยังอยู่ ส่วนพ่อเสียชีวิตนานแล้ว แต่หลวงปู่ไม่ค่อยอยู่บ้าน เห็นไปๆ มาๆ กำลังสร้างสำนักสงฆ์อยู่ที่สวนยางพาราที่พ่อและแม่มอบให้ ส่วนใหญ่คนที่บ้านนี้จะไม่ค่อยได้ไปสุงสิงหรือไปยุ่งเกี่ยว เพราะชาวบ้านเห็นว่า ไม่เป็นวัด เห็นมีแต่คนต่างถิ่น เยอะสุดเป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ส่วนใหญ่มาขอหวยขอเบอร์ คงเคยถูกจากหลวงปู่จึงตามมา

"หวยไม่เคยบอกชาวบ้านที่นี่ บอกแต่ทางอื่น แม้จะบอกก็ไม่มีใครซื้อถูกเลย ได้ข่าวทำพิธีตามหาคนร้ายฆ่าน้องชมพู่อยู่ แต่ชาวบ้านเฉยๆ รู้สึกธรรมดามากกับหลวงปู่เดือนชัย เพราะคนที่นี่หลายคนรู้นิสัยหลวงปู่เป็นอย่างดี"

นายบุญทอม เพื่อนของหลวงปู่เดือนชัย เปิดเผยว่า เป็นเพื่อนสนิทหลวงปู่เดือนชัยสมัยยังไม่บวช เรียนประถมมาด้วยกัน ชื่อเดิม นายหนูเดือน สร้างสุระ หลังจากนั้นก็มาบวช สมัยเป็นคนธรรมดาเป็นคนขี้เหล้า มักม่วน แต่ไม่ใช่อันธพาล การบวชนั้นนับครั้งไม่ได้เพราะหลวงปู่เดือนชัยจะบวชแล้วจะสึกอยู่อย่างนี้ประจำ หลวงปู่เคยบอกให้ฟังว่าถ้าสึกออกมาเป็นโยมจะไม่มีเงิน แต่หากบวชเป็นพระจะมีเงิน แต่ไม่ค่อยอยู่บ้านไปๆ มาๆ ส่วนเรื่องใบ้หวย เคยไปหาหวยกับหลวงปู่ แต่ไม่เคยถูกสักครั้งเดียว ส่วนจะมาอยู่บ้านที่สำนักสงฆ์ที่กำลังสร้างก็แล้วแต่ท่าน ชาวบ้านคงไม่ห้าม เพราะชาวบ้านไม่เกี่ยว ตนเองเคยถามหลวงปู่มาอยู่นี่การกินจะกินอย่างไร หลวงปู่เคยบอกว่าการกินการอยู่ของเฮาไม่ยาก กินทางไลน์ส่งข้อความก็มีคนมาส่งให้ ส่วนเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ไม่เคยเจอ เจอแต่ทำฤทธิ์ทำลายข้าวของ พังบ้านของน้องชาย สงสัยจะโกรธ เคยแต่เห็นปาฏิหาริย์แบบนี้ 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าไปดูบริเวณสวนยางพาราที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ โดยเป็นที่ของหลวงปู่เดือนชัยที่แม่ยกให้ กำลังมีการก่อสร้างสำนักสงฆ์ มีการถมดินเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ และมีการก่อสร้างกุฏิชั้นเดียวคล้ายทรงโมเดิร์น แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ข้างกำแพงกุฏิมีการลงยันต์อักขระข้างในเป็นรูปหัวใจติดปีก คาดว่าเป็นยันต์ที่หลวงปู่เขียนเอาไว้ข้างกำแพงกุฏิ ห่างจากกุฏิไปด้านหลังประมาณ 40 เมตร มีการก่อสร้างห้องน้ำเอาไว้ด้านหลัง และมีลานจอดรถ

ล่าสุด เวลา 09.30 น. วันที่ 19 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเหล่าหลวงใต้ หมู่ 8 ต.วังทอง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังจากทราบข่าวหลวงปู่เดือนชัย ธมมวิจโย หรืออาจารย์หนู ซึ่งถูกคณะสงฆ์มุกดาหารขับออกจากพื้นที่ กรณีไปบอกเลขใบ้หวยเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ได้เดินทางจาก จ.มุกดาหาร มาพร้อมลูกศิษย์ มาถึงสำนักงานในที่ดินสวนยางพาราของตัวเองที่บ้านเหล่าหลวง เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา โดยมีรถนำขบวนมาด้วย 

พบว่าในช่วงเช้าหลวงปู่เดือนชัยกำลังพักผ่อนภายในกุฏิ โดยมีลูกศิษย์ทั้งชายและหญิงประมาณ 20 คนอยู่รอบๆ กุฏิ และเมื่อลูกศิษย์ทั้งหญิงและชายเห็นนักข่าว แสดงความไม่พอใจบอกว่าไม่อนุญาตให้ทำข่าว ขอให้ออกนอกพื้นที่ ขอหลวงปู่อยู่อย่างสงบ จากนั้นมีลูกศิษย์ผู้หญิงคนหนึ่งได้เดินมาพูดคุยกับนักข่าวบอกว่า ช่วงนี้ขอหลวงปู่พักอยู่อย่างสงบ ขอไม่เป็นข่าว และไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น โดยมีลูกศิษย์ผู้ชายบางคนยังพูดขึ้นแทรกมาอีกว่า นักข่าวคนไหนถ่ายรูปจะฟ้องให้หมด ผู้สื่อข่าวขออนุญาตถ่ายรอบๆ สำนักงานสงฆ์แต่ลูกศิษย์ไม่อนุญาต และเชิญนักข่าวออกจากพื้นที่ พร้อมกับจะตั้งเวรยามเพื่อเฝ้าดูคนแปลกหน้าเข้าออกแห่งนี้ด้วย

...

นายประเสริฐ โอดมั่น กำนัน ต.วังทอง เปิดเผยว่า ทราบข่าวหลวงปู่เดือนชัยเดินทางมาถึงสำนักฯแล้ว มันเป็นสิทธิของท่านที่มาอยู่ที่นี่แต่ก็ขอย้ำว่าหากไม่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านก็คงไม่เป็นไร ก็อยู่ไป ไม่มีใครไปทำอะไรท่านได้ แต่หากทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้านชาวบ้านในพื้นที่คงจะพิจารณาเองว่าจะให้อยู่หรือจะอย่างไร ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้นำในหมู่บ้านก็เป็นห่วง หากมีคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่ เราไม่รู้แต่ละคนเป็นอย่างไร คงได้แต่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ

ด้านหลวงปู่บัวทอง อัตตทันโต เจ้าคณะอำเภอบ้านดุง ฝ่ายธรรมยุต เปิดเผยว่า เพิ่งรู้ข่าวว่าหลวงปู่เดือนชัย กลับมาอยู่ที่บ้านวันนี้เอง ส่วนตัวไม่ได้ไปสนทนาธรรมด้วย หลวงปู่เดือนชัย ไม่ได้สังกัดฝ่ายธรรมยุต หรือมหานิกาย ไม่รู้ไปบวชที่ไหนมาบ้าง รู้แต่ข่าวว่าบวชและสึกมาแล้วหลายครั้ง ส่วนเรื่องสำนักสงฆ์ต้องผ่านขั้นตอนของทางเจ้าหน้าที่และเจ้าคณะอำเภอ แต่ท่านมาอยู่คงจะดำเนินการภายหลัง 

“อาตมา มองว่า พระมาแสดงปาฏิหาริย์ถือว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม พระต้องอยู่ในศีลในทางที่ควรปฏิบัติ ไม่ใช่มาแสดงอิทธิฤทธิ์พูดจาภาษาไม่รู้เรื่อง ก็คงให้ท่านพำนักในสำนักของท่าน หากไม่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนคงไม่เป็นไร” หลวงปู่บัวทอง กล่าว