"หลวงพี่" เมาหนัก ซิ่งเก๋งจากร้อยเอ็ดถึงบุรีรัมย์ ขับป่วน 2 หมู่บ้าน แค้นใจผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นญาติกันแย่งเมียรักไป แถมเอาที่ดินกรรมสิทธิ์ร่วมไปจำนองโดยไม่บอก จึงต้องบึ่งรถมาเคลียร์ ยันเมาขับจะสักเท่าไร ก่อนโดนตำรวจพาไปจับสึกดำเนินข้อหา
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.63 พ.ต.อ.พงศกร โสกูล ผกก.สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน ตำบลปราสาทว่า มีพระเมาสุรา แล้วขับรถเก๋ง ด้วยความเร็วไปมา 2 หมู่บ้าน ลักษณะเป็นการขับป่วน จึงประสานนายณัฐพงศ์ ดำแม็ง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.บ้านด่าน เข้าไปร่วมตรวจสอบ

สอบถามนายแสงอรุณ ตะโกนา อายุ 65 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เห็นรถเก๋งสีบรอนซ์เงิน ขับรถวิ่งไปมาด้วยความเร็ว ข้องใจอยากรู้ว่าเป็นใคร เพราะเกรงจะไปชนเด็ก ต่อมาได้ขับมาจอดอยู่หน้าร้านค้า เมื่อลงมาก็เห็นว่าเป็นพระ และเป็นคนในหมู่บ้านชื่อ "พระปึง" แต่ก็แปลกใจว่าไปบวชตอนไหน จากนั้นก็ขับรถออกไปอีก จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ออกติดตามอีกกระทั่งไปพบรถยนต์ โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฎก 5365 กรุงเทพฯ จอดอยู่หน้าร้านค้าอีกหมู่บ้านหนึ่ง ในตำบลปราสาท พร้อมกับพระจิรพงษ์ โกติรัมย์ อายุ 51 ปี ยังอยู่ในอาการเมา พูดจารู้เรื่องดี ตำรวจจึงเชิญตัวไปที่ สภ.บ้านด่าน เพื่อทำการสอบสวน เบื้องต้นทำการเป่าแอลกอฮอล์ พบปริมาณสูงถึง 248 มิลลิกรัม จากกฎหมายกำหนดไว้ห้ามเกิน 50
...

สอบถามพระจิรพงษ์ เผยว่า ตนเป็นคน ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน แต่บวชเป็นพระแล้วไปจำวัดที่วัดบ้านคล้อ ต.ช้างเผือก อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ยอมรับว่าได้ดื่มสุรามาจริง แต่เพียงกั๊กเดียว ขับรถมาจากร้อยเอ็ดเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา สาเหตุที่กลับบ้านและดื่มจนเมาเพราะต้องการมาเคลียร์กับญาติที่เอาที่ดินซึ่งตนมีสิทธิ์ร่วมในที่ดินแปลงนั้น ไปจำนองโดยไม่บอก ประกอบกับมีความแค้นและอยากจะมาเคลียร์กับผู้ใหญ่บ้าน ที่เอาภรรยาของตนไปเป็นเมียอย่างเปิดเผย

พระจิรพงษ์ บอกด้วยว่า ตนรู้ข้อกฎหมายดี "แค่เมาแล้วขับ จะสักเท่าไร" ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง สึกก็สึก จากนั้น ร.ต.อ.ปรีชาศักดิ์ ศักดิ์ปรีชา รอง สว.สอบสวน สภ.บ้านด่าน ได้พาตัวไปสึกกับเจ้าคณะอำเภอ แล้วแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ