ตำรวจหญิง ควบเก๋งหักหลบ จยย.ล้มเอง กระทันหัน ข้ามเลนพุ่งชนเก๋งสวนทางอย่างจัง เจ็บระนาวติดซาก 4 เสียชีวิต 1 ราย
เมื่อเวลา 19.20 วันที่ 1 พ.ค.63 ร.ต.อ.สุนทร วงศษร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.จังหาร รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถเก๋ง บนถนนสายร้อยเอ็ด-กาฬสินธุ์ บริเวณทางเข้าหมู่บ้านเนตรประไพร ต.จังหาร อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด มีผู้บาดเจ็บติดภายในรถ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม หน่วยกู้ชีพ รพ.จังหาร หน่วยกู้ชีพ รพ.ร้อยเอ็ด และหน่วยกู้ภัยนครสาเกต
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน ไม่มีเกาะกลางถนน พบรถก๋งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีดำ หมายเลขทะเบียน กธ 4827 ร้อยเอ็ด จอดอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ห้องโดยสารยุบพังเสียหาย พบผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถตำแหน่งคนขับ ทราบชื่อคือ ด.ต.หญิง ศิริลักษณ์ อาจศัตรู อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสหมดสติไม่รู้สึกตัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลือนำตัวออกมา ก่อนเร่งนำส่ง รพ.ร้อยเอ็ด และเสียชีวิตต่อมาภายหลัง
นอกจากนี้ห่างกันประมาณ 10 เมตร ยังพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน 8721 กทม. สภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยินยุบถึงห้องโดยสาร พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ทราบชื่อคนขับ นายประกิจ เสงี่ยมงาม อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บขาด้านขวาผิดรูป คนนั่งข้างคนขับคือ นายธนบดี ปรีดี อายุ 16 ปี และผู้โดยสารเบาะหลัง เป็นเยาวชนอายุ 16 ปี 2 ราย ทั้งหมดได้รับาดเจ็บมีแผลถลอกฟกช้ำตามร่างกาย รู้สึกตัวดี เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือออกมาจากซากรถ ก่อนเร่งเคลื่อนย้ายนำส่งรักษา รพ.ร้อยเอ็ด เช่นกัน
ทั้งนี้ก่อนหน้าอุบัติเหตุดังกล่าว ได้เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ล้มเองอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ มีผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นหญิงไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30-40 ปี 1 คน เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.จังหาร ได้เคลื่อนย้ายนำส่ง รพ.จังหาร ก่อนหน้านี้แล้ว
...
จากการสอบถาม นายธนบดี 1 ในผู้โดยสารรถเก๋งฮอนด้าซีวิค เล่าว่า ตนเดินทางมาไหว้พระที่วัดบูรพาภิราม ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ระหว่างเดินทางออกจากร้อยเอ็ด มุ่งหน้ากลับ จ.กาฬสินธุ์ มาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆรถเก๋งที่ขับสวนทางมาหักหลบจักรยานยนต์ที่ล้มอยู่กระทันหัน ก่อนพุ่งเข้าชนรถตนอย่างจัง จนรถไถลไปอยู่ริมถนนดังกล่าว โดยตนก็ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของอุบัติเหตุครั้งนี้
เบื้องต้นตำรวจตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานและสอบสวนพยาน ก่อนจะเรียกตัวผู้อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป