ชุดปราบโควิดบุรีรัมย์ ตามจับถึงบ้านชายวัย 32 ปี ชาว อ.ละหานทราย หนึ่งในคนไทยที่เดินทางกลับจากญี่ปุ่นถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ปฏิเสธการกักตัว ก่อนตามจับอีก 1 รอมอบตัว 1 เท่ากับตามตัวได้ครบแล้ว แจ้งดำเนินคดี ส่งกักตัวสนามช้าง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 เม.ย.63 ที่ศูนย์กักกันผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ (Covid-19) สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ และ นพ.พิเชษฐ์ พืดขุนทด รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมประกาศแถลงการณ์จังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 7 เรื่องการดำเนินคดีผู้ที่ฝ่าฝืน ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานในการกักกันตัวตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. (3 เม.ย.63) ได้มีผู้โดยสารทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาถึง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยพบว่ามีกลุ่มคนไทยกว่า 100 คน ได้ปฏิเสธที่จะเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของรัฐบาล ในสถานที่จัดเตรียมไว้ให้ โดยอ้างว่าไม่ทราบว่ามีมาตรการดังกล่าว จนเกิดการถกเถียงกันขึ้นระหว่างผู้โดยสารกับเจ้าหน้าที่จนกลายเป็นความตึงเครียด เกิดขึ้นภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งได้มีการเจรจาแต่ไม่เป็นผล ผู้โดยสารทั้งหมดได้หลบหนีออกจากสถานที่กักกันของสนามบินสุวรรณภูมิ

...

"ทราบว่าผู้โดยสารในจำนวนนี้เป็นชาว จ.บุรีรัมย์ 3 ราย เป็นชายมีภูมิลำเนาอยู่ อ.กระสัง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ และอ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ โดยในช่วงเช้าวันนี้ (4 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบบ้านพักตามภูมิลำเนา และที่บ้านญาติแล้ว ที่ อ.ละหานทราย ตำรวจ สภ. ละหานทราย โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และสาธารณสุข เดินทางไปตรวจสอบยังที่อยู่ บ้านหนองตาแอก ต.ละหานทราย พบชาย อายุ 32 ปี เดินทางมาถึงบ้านพักแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจวัดไข้ พบว่ามีไข้ 37.9 องศาเซลเซียส ซึ่งจะได้นำไปดำเนินคดีข้อหาหลบหนีการกักตัว ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 แล้วจะนำมากักตัวที่ศูนย์กักกันผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ที่จังหวัดบุรีรัมย์จัดเตรียมไว้"

นอกจากนี้ยังพบ ภรรยาของชายผู้นี้ อายุ 30 ปี และญาติเป็นผู้หญิง อายุ 41 ปี พักอาศัยอยู่ด้วยกัน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ดำเนินการควบคุมตัวทั้ง 2 คน มากักตัวตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค ซึ่งเป็นไปตามตามประกาศ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 2 เม.ย.63 เรื่องครอบครัวใดที่ให้ผู้ที่เดินทางมาจากท้องที่จังหวัดอื่น มาพำนักในครอบครัวตนในจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ถือว่าทุกคนของครอบครัวนั้น เป็นผู้สัมผัสโรคตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อมีอำนาจ กักกัน ณ สถานที่กำหนดเป็นเวลา 14 วัน หรือจนกว่าจะพ้นระยะติดต่อของโรค

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสุวรรณ ได้ควบคุมตัวชาย อายุ 22 ปี ดำเนินคดีข้อหาหลบหนีการกักตัว ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 แล้วจะนำมากักตัวที่ศูนย์กักกันผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ต่อไป ส่วนอีกรายชาย อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กระสัง ได้รับการประสานจากญาติว่าจะขอเข้ามอบตัว

ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 18 ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนดประกาศ หรือคำสั่ง ที่ออกตามมาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน สี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่ จ.อุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผวจ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ผู้โดยสารที่หลบหนีจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีชาวอุบลราชธานี จำนวน 4 คน โดย 2 คน ยังอยู่กรุงเทพฯ รายงานตัวที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนอีก 2 คน เป็นหญิงอายุ 62 ปี  ชาวอ.เมืองอุบลราชธานี มารายงานตัวแล้ว เจ้าหน้าที่นำตัวเข้าระบบกักตัวที่ศูนย์พักสังเกตอาการโควิด-19 มรภ.อุบลฯ วิทยาเขตบ้านยางน้อย อ.เขื่องใน อีกรายเป็นชาย อายุ 39 ปี กำลังเดินทางโดยสารรถไฟ ขบวนที่ 71 สายกรุงเทพ-อุบลราชธานี ถึงอุบล ฯเวลา 19.50 น. เจ้าหน้าที่เตรียมรอรับตัวเข้าระบบกักตัวต่อไป