วิถีชาวบ้านหารายได้เลี้ยงชีพ หลังน้ำโขงแห้งทำประมงพื้นบ้านคึกคัก จับปลาขายได้วันละไม่ต่ำกว่าพันบาท ทำรายได้งอกงาม ร้านอาหารตามริมโขงรับซื้อแทบไม่ทัน เนื้อปลาก็แสนอร่อย
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดบึงกาฬลดลงอย่างมาก โดยเช้าวันนี้ที่จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ ม.2 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ วัดได้ 1.80 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งถึง 12.20 เมตร ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบปีนี้ แต่ระดับน้ำที่ลดลงได้ส่งผลดีต่อชาวประมงพื้นบ้านทั้งชาวไทยและชาว สปป.ลาว ต่างพากันออกเรือหาปลากันอย่างคึกคัก
ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้าน บ้านใต้ ม.3 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ กำลังเข้าจับปลาเคิง ปลาในแม่น้ำโขง น้ำหนักกว่า 6.5 กิโลกรัม ที่ติดเบ็ดด้วยวิธีแบบภูมิปัญญาชาวบ้านที่เรียกว่า "เบ็ดเผียก" หรือ "เบ็ดราว" ที่ชาวประมงใส่ไว้กลางแม่น้ำโขง ก่อนจะนำขึ้นไปขายให้กับร้านอาหารในเขตเทศบาลตำบลบึงกาฬ ในกิโลกรัมละ 300 ได้เงินกว่า 1,950 บาท ทำเมนูเด็ดปลาน้ำโขงให้กับลูกค้า
นายกมลชัย ช่างเหล็ก ชาวประมงพื้นบ้านเจ้าของเบ็ดเผียก กล่าวว่า ช่วงนี้น้ำโขงแห้งประกอบกับน้ำโขงใส ทำให้หาปลาได้ง่าย อีกทั้งน้ำโขงไม่มีตะกอนสีขุ่น ปลาไม่มีอาหารทางธรรมชาติ ตนได้คิดค้นสูตรอาหารปลาขึ้นมา และนำมาใส่กับเบ็ดเผียก ลักษณะเครื่องมือประมง เบ็ดราวเป็นเบ็ดที่ผูกติดกับด้ายยาวประมาณ 45 เซนติเมตร ขนาดของเบ็ดจะใช้เบอร์ 17-18 และนำมาผูกติดกับเชือกไนลอนเขียว เรียกว่าคร่าวเบ็ด โดยผูกเบ็ดทุกระยะ 1 เมตร ความยาวของเบ็ดราวประมาณ 100-200 เมตร กลางไว้ในแม่น้ำโขงตอนกลางคืน เช้ามาก็มาเก็บ ที่ผ่านมามีปลาแม่น้ำโขงมาติดเบ็ดเผียกน้ำหนักมาสุดคือ ปลาค้าว หนักถึง 12 กิโลกรัม ขายในกิโลกรัมละ 200 บาท ได้เงินกว่า 2,400 บาท โดยมีร้านอาหารตามริมแม่น้ำโขงรับซื้อประจำ โดยช่วงเดือนที่ผ่านมาตนสามารถหาปลาแม่น้ำโขงมาขายสร้างรายได้กว่า 10,000 บาท.
...