กระหึ่มโลกโซเชียล 10 โจ๋สาวพร้อมสาวสอง รุมกระทืบเด็กหญิง 14 สาหัส เพื่อนที่ตามมาด้วยได้แต่ถ่ายคลิป ไม่กล้าเข้าไปร่วมวง เหตุเกิดจากทั้ง 2 ฝ่ายได้ท้าทายและนัดกันมาตบตีกลางทุ่งนา ขณะที่พี่สาวคนเจ็บ วอนคนในคลิปออกมารับผิดชอบ ชี้ ถึงแม้จะเป็นการนัดมาเจอกัน แต่ทำเกินกว่าเหตุ
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีโลกโซเชียลวิจารณ์สนั่น มีคนนำคลิปภาพวัยรุ่นรุมทำร้ายกันกลางทุ่งนา โดยคนโพสต์ภาพร้องขอความเป็นธรรมให้กับน้องสาวที่ถูกทำร้าย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจาก น.ส.เจนจิรา ศรีรัตน์ อายุ 22 ปี อยู่เลขที่ 20 ม.7 บ.โนนเพกา ต.บ้านแพ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พี่สาวเด็กที่ถูกทำร้าย เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนไม่ทราบเรื่อง แต่มาเห็นสภาพของน้องสาวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องหามส่งโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ด้วยอาการปวดหัว วิงเวียนศีรษะ และมีบาดแผลการถูกทำร้ายทั่วร่างกาย จนกระทั่งมาทราบจากเพื่อนของน้องสาวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลา 15.00 น. เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการแชตกันทางโลกออนไลน์ และมีการส่งภาพ "อีโมจิ" ยุใส่กันรัวๆ ก่อนจะมีการท้าทายให้ไปเจอกัน โดยนัดเจอกันที่กลางทุ่งนา บ้านพระครู ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
น.ส.เจนจิรา กล่าวว่า โดยกลุ่มของน้องสาวพาเพื่อนไป 5 คน เมื่อไปถึงจุดนัดพบ ปรากฏว่า อีกกลุ่มมีทั้งสาวประเภทสองและวัยรุ่นมามากกว่า 10 คน และหนึ่งในกลุ่มนั้นมีอาวุธคล้ายไม้เบสบอลมาขู่ด้วย ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะมีการยั่วยุให้ตีกัน จากนั้นทั้งสองคนต่างคนต่างตบตีกัน โดยมีเพื่อนๆ ของแต่ละกลุ่มยืนคุมเชิงอยู่ แต่เนื่องด้วยอีกฝั่งมีสาวประเภทสอง ทนไม่ไหวอยากร่วมวง จึงวิ่งไปหาน้องของตนที่กำลังตีกันอยู่หนึ่งต่อหนึ่ง พร้อมกระชากผมอย่างแรง หลังจากนั้นอีกฝ่ายได้รุมทำร้ายน้องสาวคนเดียวแบบไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย
...
“เรื่องที่เกิดขึ้นถึงแม้จะเป็นเรื่องของเด็ก แต่ถือว่ารุนแรงเกินไปถ้าดูจากคลิปที่เด็กถ่ายมาได้ ตอนแรกกลุ่มที่ก่อเหตุขู่ทางเฟชบุ๊กพร้อมท้าให้ไปแจ้งความ โดยอ้างว่า "น้าเป็นตำรวจระดับสารวัตร" กระทั่งมีคลิปภาพออกมา กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงพูดอ่อนลง และยอมรับว่าก่อเหตุจริงในเวลาต่อมา
ขณะที่ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ยอมรับว่ามีการท้าทายทางเฟซบุ๊ก และไปตามที่นัดอีกกลุ่ม แต่ ไม่คิดว่าจะมีการรุมทำร้ายกันขนาดนี้ โดยเพื่อนที่ไปด้วยไม่มีใครออกมาช่วยได้เพราะอีกฝั่งมีพวกมากกว่า.