ชาวบ้านที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โวยข้าวนาปียืนต้นตายกว่า 2,000 ไร่เพราะไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยง จังหวัดไม่ประกาศพื้นที่แล้ง วอนเร่งเยียวยา ปัญหาหลังเจอหนี้สินพอกพูน วอน ธ.ก.ส.ขอพักชำระหนี้

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านท่าโพธิ์ หมู่ 4 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ดูความเดือดร้อนของชาวบ้าน หลังจากข้าวนาปีที่ปักดำกันช่วงหน้าฝนปีที่ผ่านมายืนต้นตาย เพราะขาดน้ำ และทางราชการไม่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ว จึงยังไม่ได้รับการเยียวยา จากการพูดคุยกับชาวบ้านท่าโพธิ์ ทราบว่า ทุกครัวเรือน ต้องประสบกับปัญหาความแห้งแล้งอย่างหนัก เนื่องจากข้าวนาปีที่ปักดำไว้ ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ จากปัญหาขาดแคลนน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังอุ้มท้อง ต้องยืนต้นตายรวมพื้นที่ได้รับความเสียหายกว่า 2,000 ไร่ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จำนวน 239 ครัวเรือน ประชากรกว่า 1,000 คน


จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงไปสำรวจพื้นที่นาของชาวบ้าน พบว่าพื้นที่นาของชาวบ้าน หากมองดูเป็นบริเวณกว้าง จะคล้ายๆ ว่า ชาวบ้านยังไม่ได้เก็บเกี่ยวข้าว แต่ถ้าลงไปดูใกล้ๆ จะรู้ว่าต้นข้าวนั้นยืนต้นตายหมดแล้ว

นายสมบูรณ์ มาตราคำภา อายุ 61 ปี เจ้าของที่นาร่วม 20 ไร่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ข้าวที่ยืนต้นตายเป็นข้าวเหนียว กข.6 และข้าวเจ้าหอมมะลิ เป็นข้าวนาปี ซึ่งทำการปลูกเมื่อเดือนสิงหาคมของปี 2562 ถ้าต้นข้าวไม่ตายแล้ง ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากฝนไม่ตก เขื่อนอุบลรัตน์ก็ไม่สามารถส่งน้ำมาตามคลองชลประทานเพื่อมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวให้กับชาวนาได้ เพราะเขื่อนไม่มีน้ำสำหรับทำการเกษตร ต้นข้าวในท้องนาจึงตายหมด

...


นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ชาวบ้านทุกคน อยากให้ทางจังหวัดประกาศเป็นเขตพิบัติภัยแล้งของอำเภอน้ำพอง เพื่อที่ชาวนาจะได้เงินชดเชยจากปัญหาความแห้งแล้งบ้าง อยากให้ ธ.ก.ส.พักชำระหนี้ให้กับเกษตรกร และขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยหาเมล็ดพันธุ์ข้าวมาให้เกษตรกรในฤดูการผลิต 2563 ที่ใกล้จะถึงนี้ด้วย เพราะตอนนี้ชาวนาลำบากมาก ไม่มีเงินส่งต้น ส่งดอก ธ.ก.ส.หนี้สินพอกพูน เพราะข้าวในนา ซึ่งเป็นรายได้หลักของชาวนายืนต้นตายหมด ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ แต่ทางราชการยังยื้อเวลา ไม่ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ง ทั้งที่ข้าวในนาตายหมด.