แสนสลดรับปีใหม่ 2563 สองผัวเมียวัยกลางคนชาวศรีสะเกษ ตัดสินใจนั่งรถกลับบ้านเกิด ก่อนจะพากันไปผูกคอลาโลกตายคู่ 2 ศพ ญาติคาดเครียดปัญหาส่วนตัวแก้ไม่ตก เพราะกลับมายังไม่ทันคุยกันเลย
เมื่อวันที่ 1 ม.ค.63 ร.ต.อ.สุเวช ลุนไธสง รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชาติ ละลี ผกก.สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ แพทย์เวรโรงพยาบาลโพธิ์ศรีสุวรรณ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์อุทุมพรพิสัย ออกตรวจที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งว่า มีคนผูกคอตายที่ทุ่งนาบ้านหนองโน หมู่ 3 ต.เสียว อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ ที่เกิดเหตุห่างจากบ้านผู้ตาย 500 เมตร พบร่างนายประมวล ภูผิวเหลือง อายุ 46 ปี ชาวบ้าน หมู่ 9 ต.สำราญใต้ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอติดกับขื่อโรงเก็บฟาง ห่างไปเล็กน้อยพบศพ นางบุญเกิด ภูผิวเหลือง อายุ 46 ปี ภรรยาของนายประมวล ใช้ผ้าถุงผูกคอห้อยติดอยู่กับกิ่งต้นมะม่วง สภาพศพทั้งสองไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย
นายคำภา บุตรดี อายุ 73 ปี ชาวบ้าน หมู่ 3 บ้านหนองโน ต.เสียว พ่อของนางบุญเกิดผู้ตาย เล่าว่า ทั้งสองคนไปทำงานก่อสร้างที่ชลบุรี มีลูกและหลานด้วยกันจนโตแล้ว ก่อนวันเกิดเหตุทั้งสองคนโทรมาหาบอกทำงานที่นี่ก็ไม่มีเงิน บอกจะลาออกแล้วกลับไปอยู่บ้าน ตอนกลับมาเงินค่ารถก็ไม่มีต้องให้ทางบ้านโอนเงินเป็นค่ารถโดยสารส่งไปให้ พอญาติไปรับที่ท่ารถโดยสาร กลับมาถึงบ้านก็พักผ่อนกินข้าวกันอยู่คืนหนึ่ง ยังไม่ทันได้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เช้ามาทั้งสองผัวเมียก็ออกไปที่ทุ่งนาโดยไม่บอกใครว่าไปทำอะไร ตนเห็นไปนานผิดสังเกตจึงให้หลานสาววิ่งไปตามให้มากินข้าว จนพบเป็นศพผูกคอเสียชีวิตแล้ว ซึ่งหลานเห็นแล้วก็ตกใจจึงวิ่งมาบอกตนออกไปดู ซึ่งยังไม่ทราบว่าสาเหตุการผูกคอตายคู่กันครั้งนี้มาจากสาเหตุอะไร
...
เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุของการก่อเหตุฆ่าตัวตายของสามีภรรยา แต่สันนิษฐานว่า ทั้งคู่คงจะมีปัญหาส่วนตัวที่แก้ไม่ตก สองผัวเมียกลับมาถึงบ้านยังไม่ได้เล่าอะไรให้พ่อแม่ญาติพี่น้องฟัง แต่ญาติไม่ติดใจสงสัยในการเสียชีวิตจึงมอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี แต่เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่กลางทุ่งนา รถยนต์เข้าไปไม่ได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้รถเข็นขนศพทั้งสองเข็นไปตามคันนานำส่งบ้าน.