ผัวเมาเหล้า หึงเมียนั่งดื่มกับญาติ ใช้เท้าถีบหน้า-คว้ามีดจี้คอ ถูกเมียแย่งกลับ ก่อนแทงสวนด้วยความโมโหทะลุปอดดับอนาถ พ่อเผยผู้ตายติดเหล้าขาว เข้าขั้นขาดไม่ได้ ทะเลาะกันบ่อย
เมื่อเวลา 23.30 น. วานนี้ (22 ธ.ค.) ร.ต.อ.ชวนสันติ จันทคัต รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองวัวซอ ได้รับแจ้งเหตุผัวเมียแทงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 1 ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผกก.สภ.หนองวัวซอ นำกำลังไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบกองเลือดจำนวนมากอยู่ปลายที่นอน ส่วนผู้บาดเจ็บญาตินำส่งโรงพยาบาลหนองวัวซอ ทราบชื่อภายหลังคือ นายสิงห์ขร ตะพิมพ์ อายุ 32 ปี เจ้าของบ้าน ถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลม บริเวณด้านหลังทะลุปอด เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุคือภรรยาผู้ตายชื่อ น.ส.อารยา บัวติก อายุ 33 ปี ยืนรอมอบตัวตำรวจในที่เกิดเหตุ
น.ส.อารยา ให้การว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับผู้ตายมา 13 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน พวกตนมีอาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไป ผู้ตายมีนิสัยชอบดื่มเหล้าขาวเป็นประจำ ระยะหลังเมื่อดื่มเหล้าจนเมาก็จะหึงหวง ไม่ยอมให้ตนไปพูดคุยหรือสุงสิงกับใคร แม้แต่กับญาติพี่น้องหากไม่เชื่อฟังผู้ตายก็จะลงลงมือทำร้าย เมื่อ 4-5 เดือนก่อน ถึงขั้นเอามีดไล่ฟันตนมาแล้ว ซึ่งเคยเรียกญาติผู้ใหญ่มาคุย และผู้ตายก็รับปากว่าจะไม่ทำอีก
น.ส.อารยา กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ช่วงค่ำตนนั่งดื่มเบียร์กับญาติพี่น้องบ้านติดกัน 7 คน ส่วนผู้ตายออกไปทำธุระนอกบ้าน กลับมาบ้านเวลา 20.00 น.และเดินมาตามให้ตนกลับบ้าน และพบมีอาการมึนเมาสุราแล้ว ตนบอกว่าขอล้างถ้วยจานก่อน ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ ด่าทอตนและเดินกลับบ้าน เมื่อเสร็จตนก็เดินกลับตามไป เมื่อเข้าไปนอนข้างผู้ตายได้ใช้เท้าถีบหน้า ตนจึงลุกขึ้นมาคว้าโทรศัพท์โทรไปฟ้องแม่ผู้ตายว่า โดนทำร้ายอีกแล้ว ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ แย่งโทรศัพท์ก่อนปาทิ้ง แล้วใช้มือบีบคอตนด้วย
...
น.ส.อารยา กล่าวต่อว่า ตนดิ้นรนต่อสู้ผลักผู้ตายออก แต่ผู้ตายกลับไปคว้ามีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต ที่ผู้ตายนำไปซ่อนไว้ข้างที่นอนออกมาขู่ ตนจึงแย่งมีดมาได้ ด้วยความโมโหจึงแทงผู้ตายที่ด้านหลัง 1 แผล ผู้ตายล้มลงเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ตนจึงวิ่งออกไปเรียกญาติพี่น้อง มานำผู้ตายส่งโรงพยาบาลหนองวัวซอ ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าสามีจะตายและเป็นห่วงลูกมาก อยากไปกราบขอขมาศพแต่คงไม่มีโอกาส เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น
ต่อมาเวลา 10.00 น. วันนี้ (23 ธ.ค.) พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผกก.สภ.หนองวัวซอ ได้นำตัว น.ส.อารยา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางญาติพี่น้องและชาวบ้านที่มายืนมุงดูการทำแผน โดยส่วนมากมาพูดให้กำลัง น.ส.อารยา โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงแล้วเสร็จ และควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นางนริศรา นามอุตวงษ์ อายุ 52 ปี ป้าของ น.ส.อารยา เล่าว่า หลานสาวกำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก ตนจึงเลี้ยงดูหลานสาวจนแต่งงานกับผู้ตาย ซึ่งทั้งสองคบหากันตั้งแต่เรียนมัธยม จนมีลูกด้วยกัน 1 คน แต่ผู้ตายชอบดื่มเหล้าขาว พอเมาก็จะออกอาการหึงหวงเมีย แรกๆ ก็จะพูดห้ามทำให้มีปากเสียงกัน หนักเข้าถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้าย เอามีดไล่ฟัน 2-3 ครั้ง ทั้งที่หลานสาวรักผู้ตายมาก ไม่เคยนอกใจแม้แต่ครั้งเดียว หลานสาวทนไม่ได้ขอแยกทางและไล่ผู้ตายกลับบ้าน จึงต้องเรียกญาติผู้ใหญ่มาพูดคุยแก้ปัญหา สุดท้ายทั้งสองก็คืนดีกัน แต่ผู้ตายยังไม่เลิกนิสัยหึงหวง จนมาเกิดเหตุเศร้าสลดครั้งนี้ขึ้น
ขณะที่ นายมโน พิมพ์ตะ อายุ 53 ปี พ่อผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายและภรรยารักกันมาก หลังฤดูทำนาก็จะมารับจ้างกรีดยางที่สวนของตน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดไม่เคยห่างกัน แต่ลูกชายเป็นคนชอบดื่มเหล้าขาวทุกวัน จนเข้าขั้นขาดเหล้าไม่ได้ หากทะเลาะมีปากเสียงกัน ลูกสะใภ้ก็จะโทรศัพท์มาหาแม่ผู้ตาย ไม่นานก็จะคืนดีกันเป็นเช่นนี้มานานแล้ว จนญาติพี่น้องไม่อยากไปเกี่ยวข้อง เพราะถือว่าเป็นเรื่องผัวเมียทะเลาะกัน เดี๋ยวก็คืนดีกันเอง แต่มาคราวนี้หนักหนาจนถึงขั้นเสียชีวิต จึงรู้สึกตกใจและเสียใจ ที่ลูกชายไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย
"รู้สึกเสียใจที่เหตุการณ์รุนแรงถึงแก่ชีวิต รู้สึกห่วงหลานจะอยู่อย่างไร พ่อตายแม่ติดคุก แต่ถ้าหลานจะมาอยู่ด้วยก็เลี้ยงหลาน ส่วนลูกสะใภ้ก็อโหสิกรรมให้ ไม่ถือโทษโกรธกัน อาจจะไม่ได้ตั้งใจ มันอาจพลาดพลั้งไป หากญาติพี่น้องฝ่ายลูกสะใภ้จะมางานศพ ก็มาได้ไม่ได้เจ็บแค้น หรือผูกใจเจ็บใคร ถือว่าเป็นกรรมของใครของมัน คนตายก็ตายไปแล้ว ส่วนผู้กระทำก็ให้รับโทษตามกฎหมายไป" พ่อผู้ตาย กล่าว