กรณีญาติติดใจสาเหตุการตายของหนุ่มอำนาจเจริญวัย 25 ปี ที่พบเป็นศพผูกคอในสวนยูคาลิปตัส ทาง ตร.ได้เรียกพยานที่เห็นเหตุเข้าให้ข้อมูลแล้ว และต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์ จึงจะสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้
จากกรณีที่ ญาติได้ขุดศพนายราวี เจริญรัตน์ อายุ 25 ปี หลังจากที่มีชาวบ้านไปพบเป็นศพผูกคอเสียชีวิตอยู่ในสวนยูคาลิปตัส ที่บ้านโคกเจริญ ต.นาแต้ อ.เมืองอำนาจเจริญ และได้มีการส่งศพไปตรวจพิสูจน์ ที่ รพ.สรรพสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 11 พ.ย.62 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 พ.ย.62 ร.ต.อ.สุรศักดิ์ ชาลีคำ รองฯ สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย.62 ที่ผ่านมา นางบุญนุช มีเสมอ แม่ของนายราวี ผู้ตายได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ เพื่อพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อร้องขอให้มีการส่งศพไปตรวจพิสูจน์ เนื่องจากสงสัยในประเด็นการเสียชีวิต อยู่ 2 เรื่องหลักๆ คือ 1. การตายผิดวิสัยของการผูกคอตาย ที่มีลักษณะลิ้นไม่จุกปาก ไม่เหมือนกับคนกำลังจะขาดอากาศหายใจ และ 2. สงสัยว่าจะผู้ตายจะถูกฆาตกรรม จึงอยากให้ตำรวจส่งศพไปผ่าพิสูจน์ เบื้องต้น ทาง จนท.จึงได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ให้ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลราชธานี นอกจากนี้ ยังได้มีการเรียกผู้เกี่ยวข้องและผู้เห็นเหตุการณ์มาสอบเพิ่มเติม แต่ยังดำเนินการต่อไม่ได้ เนื่องจากต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์ก่อน
...
ด้าน นางพัชรี สนิทพจน์ อายุ 51 ปี ป้าของผู้ตาย กล่าวว่า หลังจากวันที่พบศพหลานชายเมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 ที่ผ่านมา ตอนแรกตนก็คิดว่า หลานคงน้อยใจแม่และประกอบกับฤทธิ์สุรา ทำให้ก่อเหตุสลดนี้ขึ้น แต่หลังจากนำศพลงมาแล้วทางญาติจึงได้นำไปฝังที่ป่าช้าบ้านโคกสำราญ ห่างจากหมู่บ้านราว 1 กม. โดยใช้ปูนก่อทำเป็นอุโมงค์ ตามประเพณีของหมู่บ้าน แต่หลังจากฝังศพแล้วเสร็จภายในคืนนั้น พ่อของผู้ตาย คือนายอุดร เจริญรัตน์ อายุ 48 ปี ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งเนื่องจากพ่อกับแม่ของผู้ตายแยกทางกัน ก็โทรมาหาและบอกว่าลูกชายมาเข้าฝัน บอกว่าขอให้พ่อช่วยเพราะตนไม่ได้ฆ่าตัวตาย ตนถูกฆ่าตาย จากนั้นจึงได้ปรึกษากันกับทางแม่ของผู้ตาย ประกอบกับแม่ของผู้ตาย คือ นางบุญนุช มีเสมอ ก็ไม่เชื่อว่าลูกชายจะฆ่าตัวตาย จึงเดินทางมา จ.ชลบุรี เพื่อมาดำเนินการขออนุญาตขุดศพขึ้นมา ในวันที่ 11 พ.ย.62 เพื่อนำศพส่งไปผ่าพิสูจน์ ที่ รพ.สรรพสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลราชธานี โดยทาง รพ.บอกกับญาติว่าการผ่าพิสูจน์นั้นกว่าจะรู้ผลก็ต้องเป็นเวลาเป็นเดือน
ป้าของผู้ตาย กล่าวต่อว่า ต่อมา คืนวันที่ 11 พ.ย.62 เถ้าแก่ที่อยู่ จ.ขอนแก่น ที่ผู้ตายเคยทำงานด้วย ก็ฝันเหมือนกันว่า ผู้ตายมาหาขอร้องให้ช่วยโดยบอกว่าเขาถูกฆ่า ต่อมาอีกวัน ลูกสาวของตนเองซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย ซึ่งไปมีครอบครัวอยู่ที่ จ.สระแก้ว ก็ฝันเหมือนกันว่า ผู้ตายมาหาบอกว่าถูกกลุ่มคนจำนวน 5 คน รุมทำร้ายจนตาย และนำศพมาแขวนคอไว้ และนอกจากนั้นยังมีป้าของผู้ตายซึ่งอยู่ที่บ้านภูเขาขามบ้านเดียวกันกับพ่อของผู้ตาย ก็ฝันเช่นเดียวกันว่าผู้ตายมาหาขอความช่วยเหลือบอกว่าตนเองถูกฆ่า
นางพัชรี กล่าวอีกว่า หลังจากที่นำศพหลานชายลงมานั้น มีข้อผิดสังเกต ตนเองและครอบครัวยังสงสัย คือ 1. กิ่งไม้ที่ใช้ผูกคอนั้นกิ่งเล็กมาก ถ้ามีการผูกคอตายจริงก่อนสิ้นใจน่าจะมีการดิ้นทุรนทุรายอยู่บ้าง กิ่งไม้เล็กแค่นั้นคงไม่สามารถรับน้ำหนักได้คงต้องหักแน่นอน 2. การที่คนจะขาดใจตายโดยการผูกคอตายนั้น ลิ้นก็น่าจะจุกปากแต่นี่ยังอยู่ในสภาพปกติ 3. ไม่มีร่องรอยการดิ้นทุรนทุรายก่อนสิ้นใจเลย ทั้งๆ ที่เท้าทั้ง 2 ข้างของผู้ตายก็ยืนอยู่บนพื้นดินไม่ได้ลอยแต่อย่างใด 4. รองเท้าและเสื้อที่ผู้ตายสวมใส่ก็ถูกถอดวางไว้อย่างเป็นระเบียบข้างๆ กับศพ ซึ่งค่อนข้างผิดวิสัยของคนที่จะฆ่าตัวตาย ส่วนตัวเชื่อว่าหลานชายถูกฆาตกรรมแน่นอน จึงอยากขอความเป็นธรรม ขอให้ช่วยตามความคืบหน้าให้ด้วย เพราะครอบครัวของตนเองเป็นชาวบ้านธรรมดามีฐานะยากจน จึงเกรงว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า
ขณะที่ นายบุญเรือง ตาทอง อายุ 54 ปี ตำแหน่งสารวัตรกำนัน ม.4 ต.นาแต้ อ.เมืองอำนาจเจริญ ก็บอกกับผู้สื่อข่าวไทยรัฐเช่นกันว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าผู้ตายจะฆ่าตัวตาย เพราะมีหลายส่วนที่ผิดสังเกตุฃ เช่นที่บริเวณใบหน้าของผู้ตายมีร่องรอยเหมือนถูกตียุบลงบริเวณดั้งจมูก มีบาดแผลบริเวณริมฝีปากคล้ายๆ ปากแตก และมีชาวบ้านที่เห็นศพบอกว่าฟันหน้าของผู้ตายก็หายไป 2-3 ซี่ ทั้งๆ ที่ก่อนตายก็มีฟันครบ เพราะก่อนวันที่จะหายตัวไป ผู้ตายยังได้มาพูดคุยกันกับตนเองตามประสาคนรู้จักกันและผู้ตายก็เคารพตนเองเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง
ส่วน นายโกสิน สนิทพจน์ อายุ 21 ปี น้องชายผู้ตาย ก็บอกกับผู้สื่อข่าวไทยรัฐ อีกว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าพี่ชายจะฆ่าตัวตาย เพราะผู้ตายเป็นคนร่าเริง รักสนุก มีเพื่อนฝูงเยอะ ถึงจะชอบดื่มเหล้าแต่ก็ไม่เคยคิดจะฆ่าตัวตาย และที่น่าสงสัยที่ครอบครัวสงสัยกันอีกข้อก็คือ หลังจากที่ผู้ตายหายตัวไป ได้มีเพื่อนของผู้ตายมาตามหาผู้ตายที่บ้าน แม่จึงบอกว่าผู้ตายหายออกจากบ้าน 2 วัน ตอนนี้ทางบ้านก็เป็นห่วงขอให้เพื่อนคนนี้ช่วยตามหาที เพื่อนของผู้ตายก็รับปากบอกว่าจะช่วยหา กระทั่งก่อนวันที่พบศพพี่ชาย 1 วัน กลุ่มเพื่อนๆ ของพี่ชายก็ถูกตำรวจจับในคดียาเสพติด จากนั้นในวันรุ่งขึ้นก็มีคนไปพบศพพี่ชาย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ญาติตัดสินใจขุดศพหนุ่มเบญจเพส หลังตระเวนเข้าฝันฟ้อง “ถูกฆ่า”