ครอบครัววัยรุ่น 17 ปี ที่บุรีรัมย์ 1ใน 13 ศพ ปิกอัพซิ่งคว่ำปากซอยกิ่งแก้ว น้อยใจหลังได้รับแจ้งจากอาจารย์เทคนิคศรีสะเกษ ว่าจะไม่ได้ร่วมรับเงินช่วยจากการบริจาค เพราะลูกชายไม่ได้เป็นนักศึกษา
วันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการเกิดเหตุโศกนาฏกรรม รถปิกอัพนักศึกษาเทคนิคที่ไปฝึกงาน ชนเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำตายหมู่ 13 ศพ เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา บนถนนกิ่งแก้ว ปากทางเข้าซอยกิ่งแก้ว 21 มุ่งหน้าลาดกระบัง 12 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ 1 ใน 13 ศพ คือนาย วีรวัฒน์ กล้าจริง หรือแต๋ม อายุ 17 ปี อยู่เลขที่ 10 หมู่ 14 ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งญาติได้ทำพิธีฌาปนกิจศพไปแล้ว เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา
นายศิลา กล้าจริง อายุ 47 ปี พ่อของนาย วีรวัฒน์ กล่าวว่าตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ต้องเสียลูกชายไป ยิ่งไปกว่านั้นลูกชายยังไม่ได้รับเงินประกันจาก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เนื่องจากรถคันเกิดเหตุ พ.ร.บ.ขาด
นอกจากนี้ ครอบครัวยังได้รับการประสานจากอาจารย์วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ว่า ลูกชายไม่สามารถได้รับเงินจากการบริจาคช่วยเหลือ ซึ่งมียอดเงินกว่า 2.2 ล้านบาทได้ เนื่องจาก ลูกชายตนไม่ได้เป็นนักศึกษาที่ไปฝึกงาน ทำให้ตนรู้สึกท้อแท้ รู้สึกเหมือนว่า ลูกชายตายฟรี
ขณะที่นางทองใส กล้าจริง อายุ 43 ปี แม่ของนายวีรว้ฒน์ กล่าวว่า ได้มีพ่อของคนขับรถคันเกิดเหตุมาเยี่ยม และเอาเงินมาดูแลเบื้องต้นจำนวน 3,000 บาท ส่วนตัวก็เห็นใจพ่อคนขับรถ แต่ครอบครัวคนตายทางนี้ ก็ทั้งต้องทุกข์ทรมานกับความเสียใจ เงินค่าจัดงานศพลูก ก็ต้องไปกู้เขามาเป็นค่าใช้จ่าย
“สรุปว่า ตอนนี้ลูกชายที่ตายไป ได้เงินเยียวยาจากพ่อคนขับรถ 3,000 บาท ได้เงินจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นจำนวนเงิน 35,000 บาท ในความเป็นจริง เงินทั้งสองก้อนไม่สามารถจัดงานศพได้ ตอนนี้ ครอบครัวต้องมีหนี้สินจากการจัดงานศพหลายหมื่นบาท จึงอยากจะให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาด้วย”
...