จนท.ที่เกี่ยวข้อง เตรียมหารืออนาคตลูกช้างป่า "ชบาแก้ว" ที่ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวดูแลว่า จะกลับเข้าป่าหรือเป็นช้างเลี้ยง เพราะถ้าจะเข้าฝูงต้องรีบจัดการ คาดว่า 25 ก.ย.รู้ผล
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ดูแล “ชบาแก้ว” ลูกช้างป่าตกท่อส้วมที่ออกหากินกับแม่ เมื่อช่วงเดือนเมษายนผ่านมา ภายหลังที่ปล่อยครั้งแรกไม่ประสบผลสำเร็จ อาจเกิดจากเดินตามโขลงไม่ทัน จึงถูกทิ้งระหว่างทางกลางป่า หรือไม่ใช่โขลงพ่อแม่ นำกลับมาควบคุมดูแลให้เข้มแข็ง รอปรึกษาผู้บังคับบัญชาว่าจะให้ดำเนินการต่อไปอย่างไร หรือจะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง
ล่าสุด วานนี้ (23 ก.ย.) นายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนจังหวัดบึงกาฬ หลังจากเข้าเยี่ยมอาการของ ”ชบาแก้ว” ที่ปล่อยเข้าโขลงแม่ไม่สำเร็จว่า ได้นำกลับมาอนุบาลใหม่ เตรียมฝึกฝนให้เกิดความพร้อมทั้งร่างกายให้เข้มแข็งกว่าเดิม ที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์ป่าภูวัว บ้านขามเปี้ย ตำบลบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ โดยให้ดื่มนมวันประมาณวันละ 10-13 ลิตร โดยอยู่ในการดูแลของหมออย่างใกล้ชิด และก็มีพี่เลี้ยงที่เคยไปดูแลเขาที่ศูนย์โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ มาเป็นพี่เลี้ยง และดูแลอย่างดี
...
ช้างน้อยชบาแก้ว มีสุขภาพปกติและแข็งแรงดี น้ำหนักก็อยู่ที่ 138 กิโลกรัม กรณีที่เกิดท้องเสียถ่ายเหลวนั้น คงเกิดจากที่เขาเดินป่าตอนที่ปล่อยเข้าโขลง 2 คืน ไม่ได้กินนมแม่ หรือแม่ไม่มีน้ำนมให้กิน เนื่องจากตอนออกมาจากท้องแม่ใหม่ๆ นมแม่ไม่ได้ถูกลูกดูดกินเป็นเวลาติดต่อกันเกิน 3 เดือน นมแม่อาจเหี่ยวแห้งไปตามธรรมชาติ ระหว่างนั้นชบาแก้วอาจจะไปกินพวกน้ำตามลำห้วย จึงอาจจะยังปรับตัวไม่ได้ ทำให้เกิดท้องเสียแล้วก็ถ่ายเหลว หลังจากคุณหมอให้การรักษาอาการ ตอนนี้ก็ถ่ายมูลเป็นปกติดีแล้ว ส่วนลูกช้างป่าชบาแก้วเดินวนเวียนไปมาไม่ยอมหยุด เกิดอาการคล้ายกระวนกระวายอยู่ แต่อย่างไรวันนี้ชบาแก้วก็เพิ่งพักผ่อนเสร็จและเพิ่งตื่น จึงมีอารมณ์ดีขี้เล่นอยู่
ส่วนแนวทางที่จะดำเนินการต่อไปอย่างไรนั้น ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะได้ประชุมร่วมกัน เพื่อเอาเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาประมวลภาพ คาดว่าจะปฏิบัติมี 3 แนวทางคือ แนวทางที่ 1 คืนลูกช้างชบาแก้วไปอยู่ที่ศูนย์โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ หรือศูนย์คชบาล จังหวัดลำปาง แนวทางที่ 2 คือเราจะต้องดูแลเขาให้แข็งแรง ต่อสู้หากินตามลำพังได้ ถึงแม้ว่าแม่เขาจะไม่รับเข้าโขลง และมีประสบการณ์ที่จะเดินป่าตัวคนเดียวก็ต้องช่วยเหลือตัวเองได้ แนวทางที่ 3 ก็คือถ้าหากผู้บริหารตัดสินใจคิดว่าจะคืนชบาแก้วเข้าโขลงอีก ก็ต้องตัดสินใจโดยเร็ว ถ้าหากปล่อยทิ้งไปนาน ความเป็นแม่ลูกก็จะเหินห่างกันมากขึ้น จะทำให้การรับเข้าโขลงเป็นสิ่งที่ยากลำบากขึ้น.