ครูหนุ่มโสดวัย 42 ปี ที่อุดรธานี ขับรถวน ก่นจอดจุดเตารมควันฆ่าตัวตาย พบป่วย หลายโรคทั้งความดัน เบาหวาน ล่าสุดซึมเศร้า แม่วัย 74 ปี ร้องไห้โฮ บอกลูกเป็นเดียวที่รับราชการ แต่ไม่ค่อยพูด 

เวลา 06.00 น.วันที่ 5 กันยายน ร.ต.อ.เจษฎากรณ์ กะพี้โสม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุฆ่าตัวตายในรถยนต์ ที่ริมถนนบ้านทอน-บ้านดอนยาว หมู่ 11 บ้านดอนอุดม ตำบลนาบัว จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ บุญโชติ รอง ผกก.สส.สภ.เพ็ญ แพทย์เวร รพ.เพ็ญ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมธาธรรม จุด อ.เพ็ญ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ กระบะฟอร์ด สีน้ำเงิน ทะเบียน บน 8944 ศรีสะเกษ จอดอยู่ริมถนนลูกรัง ซึ่งเป็นทางสามแพร่ง แยกไปบ้านหลักดิน กระจกทุกบานปิดสนิท แต่ไม่ล็อกประตูรถ เมื่อเปิดออกพบศพนายเวชศักดิ์ หลักชัย อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 42 หมู่ 4 บ้านท่าหลักดิน ต.นาบัว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ครูชำนาญการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาจีน) โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล อ.เมือง จ.อุดรธานี สภาพศพมีฟองอากาศที่จมูกและปาก สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ นอนหงายอยู่เบาะหลังพวงมาลัย จากการชันสูตรไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตมาประมาณไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง

...

ตรวจภายในรถพบพบเตาอั้งโล่มีเศษขี้เถ้าที่ดับแล้ว วางอยู่ที่พักเท้าเบาะหน้าข้างคนขับ และกระเป๋าสะพายผ้าสีขาว ภายในมียารักษาโรคประจำตัว ความดัน เบาหวาน เงินสด 2,000 บาท หนังสือภาษาจีนชื่อหนังสือ “สัมผัสภาษาจีน” ด้านหลังมีข้อความเขียนด้วยปากกาสีน้ำเงินว่า “ตลอดระยะเวลาที่เราไม่มีใครก็ต้องขอบใจที่เธอไม่เคยทิ้งเรา “สิวะ”

ร.ต.อ.เจษฎากรณ์ กะพี้โสม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนชาวบ้าน ให้การตรงกันว่า บ่ายวานนี้พบผู้ตายขับรถวนเวียนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้จอดรถบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีใครลงมาดู กระทั่งตื่นเช้าชาวบ้านจะไปดำนา ยังพบรถจอดอยู่ที่เดิม จึงเคาะกระจกเรียก แต่ผู้ตายยังนอนนิ่ง จึงเปิดประตูรถเพื่อสอบถาม ก็พบว่านอนเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งตำรวจ แพทย์ระบุเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดป่าเวฬุวัณ หมู่ 4 บ้านท่าหลักดิน ต.นาบัว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พบนางลำไย หลักชัย อายุ 74 ปี แม่ผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายเป็นลูกคนที่ 3 ในจำนวน 6 คน และรับราชการเพียงคนเดียว เป็นเสาหลักของครอบครัว ชอบช่วยเหลือพี่น้อง เป็นโสด ยังไม่แต่งงาน บวชและเรียนจนจบปริญญาตรี รับราชการครั้งแรกที่ จ.ศรีสะเกษ ต่อมาพี่น้องแต่งงานแยกครอบครัวออกไป แม่ต้องอยู่คนเดียว ผู้ตายจึงได้ขอย้ายกลับมาดูแลแม่ ได้ประมาณ 5 ปี

นางลำไย เล่าต่อไปว่า ผู้ตายไม่ดื่มเหล้า ไม่เที่ยวเตร่ ไม่ยุ่งเกี่ยวอบายมุข เป็นคนพูดจาไพเราะ ไม่มีศัตรู และเป็นที่รักของชาวบ้าน ช่วงเปิดเทอมผู้ตายบอกว่าจะไปนอนอยู่ที่บ้านครูในโรงเรียน เพราะมีงานมาก แต่จะหาเวลากลับมาเยี่ยม โดยให้ญาติพี่น้องมานอนเป็นเพื่อน ซึ่งตนก็เป็นห่วง เพราะลูกชายมีโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดัน และเคยวูบหมดสติ ได้นำส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้นลูกชายมีอาการซึมเศร้า และไม่ค่อยพูดจากับใคร ก่อนเกิดเหตุเช้าตรู่วันนี้ ตนไปทำบุญที่วัด มีชาวบ้านวิ่งมาบอกว่า ลูกฆ่าตัวตายในรถ ตนรู้สึกช็อกและเสียใจ ร้องไห้ตั้งแต่วัดมาถึงที่เกิดเหตุ

“ลูกเป็นคนไม่ค่อยพูด จึงไม่รู้ว่าลูกมีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้ และต้องตัดสินใจทำแบบนี้ ขาดเขาไป เหมือนครอบครัวขาดเสาหลัก”