สาวใหญ่ขับรถชนลุงวัย 85 ลากศพไกล 40 กม.ทิ้งตลาด เข้าพบตำรวจแล้ว หลังเห็นป้ายทะเบียนรถโผล่ว่อนโซเชียล กลางงานศพ เผยคืนเกิดเหตุทางมืดฝนตกหนัก อ้างไม่รู้ชนคน พร้อมรับผิดชอบ วอนสังคมเห็นใจ
จากกรณีเหตุการณ์รถกระบะ ลากร่างผู้เสียชีวิตมาจาก จ.หนองบัวลำภู ระยะทางเกือบ 40 กม. ทิ้งศพไว้ภายในตลาดเมืองทองเจริญศรี อ.เมือง จ.อุดรธานี ก่อนขับหลบหนีไป จนเวลาต่อมาทราบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายทอง สุขสวาท อายุ 85 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 1 ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งโดนรถชนเสียชีวิตบริเวณถนนหน้าบ้าน ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุดวันนี้ (2 ส.ค.) น.ส.จิราภา สนิทวงศ์ชัย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 228 หมู่ 12 ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้เดินทางมาพร้อมญาติเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยให้การว่า ในวันเกิดเหตุตนได้ขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผธ 5672 อุดรธานี ไปคนเดียว โดยขับกลับมาจากบ้านญาติในตัวเมืองหนองบัวลำภู พอขับมาถึงจุดเกิดเหตุเวลา 02.30 น. ซึ่งในขณะนั้นมีฝนตกลงมา ตนก็มองเห็นวัตถุสิ่งของเป็นเงาตะคุ่มๆ อยู่กลางถนน ลักษณะคล้ายคนนั่งก้มหน้าหรือคล้ายสุนัข จึงเบรกแต่ไม่ทัน จึงชนเข้ากับวัตถุดังกล่าว ซึ่งตนก็รู้สึกว่าอาจจะเป็นสุนัข เพราะคงไม่มีคนมานั่งตากฝนอยู่ในช่วงเวลากลางดึก ครั้นจะจอดรถดูก็เกรงว่าจะเกิดอันตราย เพราะขับมาคนเดียวและบริเวณดังกล่าวก็มีฝนตกหนักอีก
น.ส.จิราภา เล่าต่อว่า จากนั้นตนจึงโทรศัพท์ไปแจ้งสามีให้ทราบ และโทรไปหาญาติ ที่ อ.เมืองหนองบัวลำภู ให้ขับรถมาดูจุดเกิดเหตุ แต่ก็ไม่พบอะไร แต่ตนก็ยังไม่สบายใจ จึงได้เดินทางไปที่ รพ.หนองวัวซอ และ รพ.หนองบัวลำภู ซึ่งใกล้กันกับจุดเกิดเหตุ แต่ก็ไม่มีผู้ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บหรือเสียชีวิตมารักษาตัวแต่อย่างใด
...
น.ส.จิราภา เล่าต่อว่า จนเวลา 20.30 น.วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา พี่สะใภ้ได้ส่งรูปป้ายทะเบียนรถยนต์ของตน ซึ่งเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ซึ่งวางอยู่ข้างโลงศพผู้ตายมาให้ดู ตนตกใจมากจึงได้โทรศัพท์มาปรึกษาญาติ และโทรหาประกันก่อนรีบเดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งตอนแรกไม่ทราบจริงๆ ว่าขับรถชนคน โดยตนพร้อมจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากขอร้องสังคมโปรดให้อภัยและเห็นใจตนด้วย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู จะทำการสอบสวน และประสานข้อมูลส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนกฎหมาย