หมอดินอาสา อ.ลำปลายมาศ ลุยทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามรอย พ่อหลวง ร.9 พร้อมได้รับการสนับสนุนจาก พด.บุรีรัมย์ จนประสบผลสำเร็จ ต่อยอดให้ความรู้ชาวบ้านในศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน ต.โคกสะอาด
นายอิ่ม แก้วอัมพวา หมอดินอาสาประจำ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เดิมพื้นที่การทำเกษตรของตนดินมีความแห้งแล้ง เสื่อมโทรมจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยวมาเป็นเวลานาน คือ ทำนา มาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้ปรับปรุงบำรุงรักษาดิน ใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ประสบภาวะการขาดทุน ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ แต่ด้วยความเชื่อมั่นในอาชีพเกษตรกรรมที่ไม่ว่าจะขาดทุนหรือประสบปัญหาด้านใดก็จะไม่ปล่อยให้ที่นาทิ้งร้าง กลายเป็นแรงผลักดันให้หันมาศึกษางานในโครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ของตนเอง รวมถึงได้รับการแนะนำส่งเสริมจากกรมพัฒนาที่ดินโดยสถานีพัฒนาที่ดินบุรีรัมย์ ให้ความรู้ในเรื่องการดูแลและการปรับปรุงบำรุงดิน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมี โดยใช้เวลาเปลี่ยนแปลงกว่า 10 ปี จนประสบความสำเร็จดังเช่นทุกวันนี้

...
โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมพัฒนาที่ดินโดยสถานีพัฒนาที่ดินบุรีรัมย์มาขุดบ่อน้ำในไร่นานอกเขตชลประทานให้ และได้ใช้เลี้ยงปลา ปลูกพืชผักสวนครัวในพื้นที่ เมื่อก่อนพื้นที่ตรงนี้แห้งแล้งและขาดน้ำ แต่หลังจากได้ขุดบ่อน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน และบ่อเกษตรทฤษฎีใหม่แล้ว ก็เปลี่ยนมาทำการเกษตรแบบผสมผสาน โดยหลังการเก็บเกี่ยวข้าวก็ไถกลบตอซังข้าว ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ต่อมาปี 2559 กรมพัฒนาที่ดินโดยสถานีพัฒนาที่ดินบุรีรัมย์ มาแนะนำส่งเสริม พร้อมสนับสนุนปัจจัยการผลิตให้ทำปุ๋ยหมักสูตรพระราชทานและในปี 2562 ได้เข้าร่วมโครงการธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ของกรมพัฒนาที่ดิน โดยมีสมาชิกจำนวน 50 รายร่วมกันผลิตปุ๋ยหมักสูตรพระราชทาน และน้ำหมักชีวภาพจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.2, พด.7 เมื่อตั้งเป็นธนาคารปุ๋ยอินทรีย์แล้วก็ทำเป็นกองทุนปุ๋ยหมัก กองทุนน้ำหมักชีวภาพจากสารเร่งซุปเปอร์พด.2, พด.7 แบ่งกันเป็นสัดส่วน แจกจ่ายให้สมาชิก 50% สมาชิกนำปุ๋ยคอกมาแลก 20% ขาย 25% ใส่แปลงสาธิต (คัดเลือกแปลงสาธิตโดยสมาชิก) 5%
นอกจากนี้ ในพื้นที่สวนก็ปลูกพืชหลากหลายชนิด เช่น ชมพู่ ทุเรียน เงาะ ลองกอง มะม่วงหลายสายพันธุ์ เขียวเสวย งามเมืองย่าโชคอนันต์ และแปลงปลูกฝรั่ง เพื่อจำหน่าย จำนวน 3 ไร่ ปลูกหญ้าแฝกที่แปลงฝรั่งเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน โดยตัดใบหญ้าแฝกมาปกคลุมพื้นดินเมื่อใบหญ้าแฝกย่อยสลายก็จะกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ รากหญ้าแฝกสามารถที่จะเก็บกักความชุ่มชื้นในดินให้กับต้นฝรั่งทำให้เจริญเติบโตได้ดี ส่วนพืชที่ปลูกไว้หลากหลายชนิด ก็ได้พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันทำให้สภาพแวดล้อมในพื้นที่มีความสมดุลตามธรรมชาติ จากการได้รับความรู้และนำมาปฏิบัติแล้วดีคือ 1.สุขภาพที่ดีทั้งตนเองและครอบครัว ลูกหลานได้กินผลไม้ที่ปลอดสารพิษ 2.ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ 3.ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ขึ้น 4.เกิดความภาคภูมิใจที่เราสามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ต่างๆ ขึ้นมาใช้เอง โดยที่ลดต้นทุนการผลิตโดยสิ้นเชิงและได้บรรยายเผยแพร่ให้ความรู้เมื่อเกษตรกรทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ที่มาเยี่ยมประชุมที่ศูนย์ฯ

นางสาวผกากรอง มาลา นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สถานีพัฒนาที่ดินบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในส่วนของสถานีพัฒนาที่ดินบุรีรัมย์จะมีเครื่องตรวจดิน(เทรสคิด)ให้กับลุงอิ่ม สนับสนุนพันธุ์หญ้าแฝกให้ปลูกเป็นแปลงขยายพันธุ์ พร้อมค่าดูแลรักษาแปลง เมื่อถึงฤดูกาลปลูกหญ้าแฝกเจ้าหน้าที่หน่วยก็จะมารับซื้อ ส่วนเมล็ดพันธุ์ปุ๋ยพืชสด ก็เอามาไว้ที่ศูนย์นี้เพื่อใช้หว่านในแปลงนาของลุงอิ่ม เกษตรกรภายในกลุ่มที่สนใจนำไปหว่านในแปลงนาของตน สนับสนุนปัจจัยการผลิตน้ำหมักชีภาพจากสารเร่งซุปเปอร์พด.2, พด.7 ให้สมาชิกกลุ่มเข้มแข็งฯ ของกลุ่มที่มีลุงอิ่มเป็นประธาน กลุ่มนี้เป็นศูนย์กลางที่จัดตั้งกลุ่มเข้มแข็งฯแล้วมีเครือข่ายของแต่ละหมู่บ้าน ที่จะมาดูตัวอย่าง ถ้ากลุ่มของหมู่บ้านอื่นที่เข้มแข็ง เราก็จะต่อยอดต่อไป
นอกจากการตรวจวิเคราะห์ดินแล้ว สถานีพัฒนาที่ดินบุรีรัมย์ยังได้ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยพืชสด โดยหว่านเมล็ดพันธุ์ปุ๋ยพืชสดหลังฤดูทำนาแล้วไถกลบเพื่อปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ การทำปุ๋ยหมัก จากสารเร่งซุปเปอร์ พด.1 การทำน้ำหมักชีวภาพจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.2 สารควบคุมแมลงศัตรูพืชสารเร่งซุปเปอร์พด.7 ไว้ใช้ในแปลงเกษตร สมาชิกในกลุ่มศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีพัฒนาที่ดินจะมารวมกลุ่มกันทำปุ๋ยอินทรีย์ทุกรอบและแบ่งกันใช้อย่างเป็นสัดส่วน
...

ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินประจำ ต.โคกสะอาด อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ นับว่าเป็นพื้นที่ต้นแบบในการรวมกลุ่มทำเกษตรอินทรีย์ที่เข้มแข็ง จะเห็นได้ชัดเจน จากผลผลิตที่เจริญงอกงาม ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ประกอบกับการศึกษาหาความรู้ของลุงอิ่มเองในการไปดูงานที่ทางกรมพัฒนาที่ดิน โดยสถานีพัฒนาที่ดินบุรีรัมย์จัดหามาให้ และนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่และต่อยอดให้ชาวบ้านที่อยู่ในกลุ่มได้รับความรู้และได้นำมาใช้อีกด้วย นับว่าเป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินได้อย่างครบวงจร.