คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แถลงความสำเร็จ ใช้โบท็อกซ์รักษาอาการช้างพังวัย 50 ปี ป่วย "ขากรรไกรแข็ง" กินอาหารไม่ได้ สำเร็จเป็นรายแรกของโลก

เวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.ค. รศ.น.สพ.ดร.นิกร ทองทิพย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย อ.สพ.ญ.ดร.สุภาเพ็ญ ศรีพิบูลย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ น.สพ.ทวีโภค อังควานิช สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ สพ.ญ.วรางคณา ลังกาพินธุ์ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ผศ.น.สพ.ดร.วีรพงศ์ ตั้งจิตเจริญ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พญ.พรเอื้อ บุญยไพศาลเจริญ สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงข่าวความสำเร็จของการใช้โบท็อกซ์ในการรักษาช้างที่มีอาการกล้ามเนื้อขากรรไกรแข็งเกร็ง อ้าปากไม่ได้ เป็นรายแรกของโลก ที่อาคารคลินิกสุขภาพช้างและสัตว์ป่า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม

รศ.น.สพ.ดร.นิกร กล่าวว่า พังรุ่งนภา ช้างเลี้ยงเพศเมีย อายุ 50 ปี เข้ารับการรักษาด้วยอาการไม่กินอาหาร จากการตรวจร่างกายเพิ่มเติม พบภาวะการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร ซึ่งเป็นเหตุให้ช้างอ้าปากกินอาหารไม่ได้ ในระยะเวลากว่า 3 เดือน ที่พังรุ่งนภาที่อ้าปากไม่ได้ พังรุ่งนภาได้รับการถ่ายพลาสมา ได้รับสารอาหารผ่านทางเส้นเลือด ได้รับอาหารปั่นผ่านทางสายยาง รักษาด้วยแสงเลเซอร์เพื่อลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ และได้รับการฝังเข็มเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท

...

เมื่อเข้าเดือนที่ 4 พังรุ่งนภาสามารถอ้าปากกินอาหารได้เล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถกินหญ้าหรือผลไม้ตามปกติได้ ดังนั้นทีมรักษาจึงได้พิจารณาในการรักษาโดยการฉีดโบท็อกซ์เข้าที่กล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร เพื่อหวังผลให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อนั้นๆ โดยหลังจากการฉีดโบท็อกซ์เพียง 2 สัปดาห์ พังรุ่งนภาสามารถอ้าปากได้กว้างขึ้น และสามารถเคี้ยวหญ้าและผลไม้ได้เกือบปกติ

รศ.น.สพ.ดร.นิกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ พังรุ่งนภาได้พักฟื้นอยู่ที่อาคารคลินิกสุขภาพช้างและสัตว์ป่า โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จ.นครปฐม โดยความสำเร็จใจการรักษาพังรุ่งนภานี้ เกิดจากความช่วยเหลือจากหลากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คณะ สัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ศูนย์วิจัยช้างและสัตว์ป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย สมาคมสหพันธ์ช้างไทย สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์

"ขอขอบคุณ ทุกท่านที่ร่วมบริจาคอาหาร และสบทบทุนค่ารักษาพยาบาลช้าง และควาญช้างที่คอยดูแลช้างเป็นอย่างดีระหว่างที่เจ็บป่วยรวมถึงเจ้าของช้างที่อนุญาตให้ทีมสัตวแพทย์ได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ โดยใช้ศาสตร์และองค์ความรู้ใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ จนทำให้พังรุ่งนภาสามารถกลับมาอ้าปากได้อีกครั้งหนึ่ง ถือเป็นความสำเร็จทางการแพทย์อีกขั้น"