ตำรวจภูธรอุดรธานี นำทีมสืบลงพื้นที่ตรวจจุดที่คนร้ายถีบ จยย.สาววัย 42 แล้วบังคับอมนกเขา ล่าสุด พบมือถือคาดว่าเป็นของคนร้ายตกในพงหญ้า ผู้เสียหายยืนยันเป็นหนุ่มที่มานั่งตีสนิทในร้านก๋วยเตี๋ยว
กรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ชาว จ.อุดรธานี แจ้งตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี หลังถูกไอ้หื่นขี่ จยย.ประกบถีบรถล้ม ก่อนชกท้องลากเข้าไปข่มขืนใจด้วยการบังคับให้ใช้ปากอมนกเขาเพื่อสำเร็จความใคร่ โชคดีมีชาวบ้านปั่นจักรยานออกกำลังกายผ่านมา จึงวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนมาแจ้งตำรวจให้ช่วยตามล่าไอ้หื่นมาดำเนินคดี เหตุเกิดเช้าตรู่วันที่ 30 กรกฎาคม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สารวัตรสืบสวนกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้ง ได้สอบสวนปากคำ น.ส.เอ ผู้เสียหาย และนำกำลังออกไปตรวจที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางเปลี่ยวเข้าหมู่บ้าน ริมทางมีป่ารก พบโทรศัพท์มือถือตกในที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้เสียหายชี้ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์คนร้ายที่เข้ามาตีสนิทขณะนั่งกินก๋วยเตี๋ยว เพราะจำซองใส่โทรศัพท์เป็นรูปดอกไม้สีแดงด้านหลัง ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือพบว่าเป็นโทรศัพท์ของข้าราชการทหารยศสิบตรี สังกัดค่ายแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เมื่อไปสอบถามให้การปฏิเสธว่าโทรศัพท์หายขณะไปเที่ยวหลายวันแล้ว
นอกจากนี้ ยังตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณเส้นทางที่คนร้ายขี่รถตาม น.ส.เอ และขี่หลบหนีหลังก่อเหตุ พบว่าเป็นรถฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียน แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ และจากการสืบสวนยังทราบว่าเจ้าของโทรศัพท์ที่ตกในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ซึ่งตำรวจได้รวบรวมพยาน หลักฐาน ทั้งพยานบุคคล และผลการตรวจแพทย์ เพื่อรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
...
พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะรู้ตัวว่าตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะตำรวจได้ติดต่อไปแล้ว แต่ยังให้การปฏิเสธ ตำรวจจึงต้องรวบรวมหลักฐานกล้องจากวงจรปิด ผลตรวจของแพทย์ ซึ่งจะสามารถระบุตัวผู้ต้องหาได้ ตำรวจจะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ หากพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นทหารจะได้ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาต่อไป.