ชาวบ้านบอก สาวใหญ่ สาวน้อย เมียฝรั่ง แห่พึ่ง "หมอแก้ป" ร่างทรงวัย 29 ที่ขอนแก่น ผู้ต้องหาข่มขืนสาว 16 ที่มาสะเดาะเคราะห์ กำนันแฉ ตอนบวชทำอนาจารสีกาจนโดนสึก ฝ่ายเจ้าตัวอ้าง เด็กสาวเซ็นชื่อยินยอมให้ล่วงเกิน
เวลา 10.00 น.วันที่ 21 มิ.ย. ที่งานสอบสวน สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.ภูมิน อินทร์นอก สว.(สอบสวน) สภ.น้ำพอง ได้สอบปากคำ นายสุรศักดิ์ ภักดีสุวรรณ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาในคดีข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ หลังถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำหมายจับเข้าจับกุมได้ที่บ้านพัก ในบ้านกุดน้ำใส ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ผ่านมา โดยมีผู้เสียหายเป็นหญิงวัยรุ่นอายุ 16 ปีชาว อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี แจ้งความว่า ถูกหมอแก้ปข่มขืน ขณะเข้าพิธีสะเดาะห์เคราะห์ที่สำนักทรง ภายในบ้านหมอแก้ป ซึ่งหลังถูกจับหมอแก้ปให้การรับสารภาพว่าล่วงละเมิดทางเพศจริง แต่ฝ่ายหญิงยินยอม
พ.ต.ท.ภูมิน อินทร์นอก สว.(สอบสวน) สภ.น้ำพอง กล่าวว่า ได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นเป็นผัดแรก และไม่ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค.62 ผู้เสียหายพร้อมผู้ปกครอง ได้เดินทางไปพบนายสุรศักดิ์ ภักดีสุวรรณ หมอแก้ป ที่บ้านพัก ซึ่งใช้เป็นสำนักทรงเจ้าเป็นที่ประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ ดูดวง ขณะทำพิธีผู้เสียหายถูกล่วงละเมิดทางเพศ จึงบอกกับผู้ปกครอง และพากันเขาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อรับแจ้งความจึงส่งตัวไปตรวจร่างกายกับแพทย์ กระทั่งแพทย์ตรวจพบอสุจิในช่องคลอดและเยื่อพรหมจารีฉีกขาด จึงได้รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับนายแก้ป ซึ่งนายแก้ปก็รับสารภาพว่าทำจริง แต่เป็นการยินยอมของผู้เสียหายเอง
...
“การทำงานของพนักงานสอบสวน ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน และมีการสอบสวนผู้เสียหายโดยทีมสหวิชาชีพเป็นที่เรียบร้อย จึงได้ขอหมายจับ ทุกอย่างไปว่ากันที่ศาล แต่ในชั้นพนักงานสอบสวนไม่ให้ประกันตัว เพราะเกรงว่าจะมีการข่มขู่พยาน”
ขณะที่นายแก้ป ผู้ต้องหาให้การว่า ในวันเกิดเหตุ เด็กหญิงวัย 16 ปี มาขอให้ช่วย เพราะดวงตก ซึ่งมากับพ่อแม่ ตนเองจึงถามว่าถ้าจะให้ช่วยจริง จะยอมทำตามทุกอย่างหรือไม่ ถ้าจะให้แก้ดวงตก จะต้องมีการถอดเสื้อ เพื่อทำพิธีลงอักขระ และทำเสร็จต้องปิดประตูทุกทิศทุกทาง บางอย่างจะต้องมีการแตะเนื้อต้องตัวและถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งได้มีการถามย้ำกับหญิงวัย 16 ปีอีกครั้ง ก็ยินยอมทำตาม พร้อมกันเซ็นชื่อในใบบันทึกยินยอมด้วย จากนั้นจึงปิดประตูห้อง ให้พ่อแม่ออกไปก่อน เพื่อจะเริ่มพิธี ซึ่งไม่ได้มีการล็อกประตูแต่อย่างใด และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการข่มขืน เพราะหากเป็นการข่มขืน หญิงวัย 16 ปีดังกล่าวก็สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ทันที ประตูก็ไม่ได้ล็อก พ่อแม่สามารถเปิดประตูเข้ามาได้ตลอด
ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านกุดน้ำใส พบว่าที่บ้านนายแก้ป ปิดเงียบ แต่ได้รับการเปิดเผยจากนายรังสรรค์ ทองโคตร กำนันตำบลกุดน้ำใส ว่า นายสุรศักดิ์ หรือหมอธรรมแก้ป หรือหมอแก้ป นั้น เคยบวชพระเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา ขณะบวชพระเคยทำผิดเรื่องอนาจาร สีกาที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชนมาสะเดาะเคราะห์ที่วัด เจ้าอาวาสวัดทราบเรื่องจึงให้สึกและไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายได้ เรื่องจึงจบไป เมื่อสึกจากพระกลับมาอยู่บ้านก็ตั้งสำนัก เป็นร่างทรงและเปิดรับดูดวง สะเดาะเคราะห์ให้กับคนทั่วไป
“ทราบว่าบิดา มารดานายแก้ป เลิกกันนานแล้ว มารดาก็มีครอบครัวใหม่เป็นชาวต่างชาติ นานๆ จะกลับมาเยี่ยมบ้าน เมื่อสึกจากพระ นายแก้ปก็อยู่บ้านคนเดียว เปิดตำหนักทรงเจ้า ทำพิธีต่างๆ มีคนมาหาเยอะ อาจจะเป็นการบอกกันปากต่อปาก แต่ไม่มีมีใครได้รับความเดือดร้อนจึงไม่ได้เข้าไปตรวจดู แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นก็จะต้องให้เลิกทำ และให้กฎหมายเป็นผู้จัดการและอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการร่วมพิธีหรือทำพิธีต่างๆ ไม่เช่นนั้นอาจะถูกหลอกเสียใจ เสียอนาคตก็เป็นได้”
ด้านนางแสงเดือน สีสุนนท์ อายุ 32 ปี และชาวบ้านในหมู่บ้านอีกหลายคน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ในแต่ละวันมีคนมาหาหมอแก้ปหลายราย มีทั้งสาววัยรุ่น สาววัยทำงาน ภรรยาชาวต่างชาติ ที่มักจะมาให้หมอแก้ปทำพิธีเสริมดวงชะตาราศี ให้ผัวรัก ผัวหลง ผัวเลิกกับเมียน้อย บางรายมากันทั้งครอบครัว รายล่าสุดทราบว่าเป็นสาวอายุ 16-17 ปีมากับผู้ปกครอง แต่หลังจากทำพิธีไปประมาณ 2 ชั่วโมง หญิงสาวรายดังกล่าว วิ่งร้องไห้ออกมาจากบ้าน ผู้ปกครองจึงพากลับออกไป กระทั่งมีตำรวจมาจับหมอแก้ปที่บ้าน
"ก่อนหน้านี้นายแก้ปบวชเป็นพระ และไปเรียนวิชากับอาจารย์ที่เป็นร่างทรงฤาษี ทางภาคเหนือ เมื่อสึกออกมาก็ตั้งสำนักทรงที่บ้านตัวเอง มีการประกอบพิธีไล่ผีปอบ สวดและประกอบพิธีกรรมเสียงดังลั่นออกมานอกบ้านทั้งกลางวันและกลางคืน มีคนหลงเชื่อจำนวนมาก เดินทางมาที่บ้านหมอแก้ปไม่ขาดสาย แต่เมื่อหมอแก้ปถูกจับในเรื่องการอนาจารหญิงสาวเช่นนี้ ความศรัทธาก็นาจะหมดเช่นกัน”